Page 95 - เอกสารประกอบการสอน pdf
P. 95
บทที่ 5 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนฐานมรดกวัฒนธรรม 84
ความสะอาด และสุขอนามัย นอกจากนี้ เมื่อชุมชนเริ่มเป็นที่รู้จักก็จะมีหน่วยงานลงไปสนับสนุนเรื่อง
ึ่
ุ
อปโภคบริโภค การที่การท่องเที่ยวเป็นเพยงรายได้เสริม ท าให้ชาวบ้านไม่คิดพงพารายได้หลักจาก
ี
การท่องเที่ยว และสามารถด ารงชีวิตได้อย่างปกติต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวหรือไม่ก็ตาม
การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากหลายกรณีศึกษาบ่งชี้ว่า การบริหารจัดการโดยชุมชนก่อให้เกิด
ผลประโยชน์ในหลายด้าน เช่น งานศึกษาของ Lee and Jan (2019) ที่ศึกษาการท่องเที่ยวโดยชุมชน
จากชุมชน 6 แห่งในประเทศไต้หวัน ผ่านการตอบแบบสอบถามของผู้พกอาศัยจ านวน 849 คน โดย
ั
ท าการศึกษาเปรียบเทียบก่อน-หลัง ของกระบวนการพฒนาการท่องเที่ยว แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ั
ั
การรวมกลุ่ม (Consolidation) การพฒนา (Development) และการเชื่อมโยง (Involvement) ผ่านการ
พจารณาบริบทความยั่งยืนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต
ิ
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้พักอาศัยในชุมชนส่วนใหญ่มีความรับรู้ว่าความยั่งยืนในทั้ง 4 มิติเปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ โดยเฉพาะในระยะพัฒนา
5.4 การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (CREATIVE TOURISM)
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ให้
นิยามของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ว่า “เป็นการท่องเที่ยวที่มีจุดประสงค์สอดคล้องกับแนวทาง
การพฒนาชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพอให้เกิดความยั่งยืนในการด าเนินชีวิตของชุมชน โดยจัดกิจกรรม
ื่
ั
ั
การท่องเที่ยวอย่างกลมกลืน และสัมพนธ์กับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนวิถีต่าง ๆ ในชุมชน ในเชิง
ของการเรียนรู้และการทดลอง เพอให้ได้มาซึ่งประสบการณ์จากสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่จริงในชุมชน
ื่
นอกจากนั้น ชุมชนจะต้องสามารถใช้การจัดการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือในการรักษาความสมดุล
ระหว่าง (1) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวภายในชุมชนและ (2) ชุมชนจะได้รับผลประโยชน์
ิ
ทั้งในรูปแบบที่เป็นผลประโยชน์ตอบแทนองตามระบอบทุนนิยมและในรูปแบบความยั่งยืนของการพฒนา
ั
ในชุมชน
5.4.1 นิยาม “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”
รูปแบบพัฒนาการของการท่องเที่ยวของชาวตะวันตก มายังจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ สามารถแบ่งออกเป็นกระแสหลักได้ 3 กระแส โดยเริ่มจากยุคแรก เป็นยุคที่ให้ความสนใจกับ
การพกผ่อนหย่อนใจหรือนันทนาการ เน้นความบันเทิงเป็นหลัก (Recreation) ก่อนที่จะหันมาให้ความ
ั
สนใจกับวัฒนธรรมเพมมากขึ้น จนเกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ตามมาด้วย
ิ่
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco Tourism) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable
Tourism) และยังมีรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ในปัจจุบันที่เรียกว่าการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative
ู
Tourism) ซึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่ก าลังพดถึงมากในปัจจุบันและถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยว
อย่างยั่งยืน
การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์นั้นพัฒนามาจากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นฐานราก แต่จะมีจุด
แตกต่างที่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนั้น นักท่องเที่ยวมีบทบาทเป็นเพยงผู้ชม ขณะที่การท่องเที่ยว
ี
เชิงสร้างสรรค์นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในชุมชนได้ และชุมชนเองก็สามารถสื่อสารกับ
ี
นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น (อพท., 2558) การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จึงเปรียบเสมือนวิวัฒนาการอกระดับ
ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ค าว่า Creative Tourism นั้นสร้างขึ้นโดยนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่ชื่อ คริสปิน เรย์มอนด์ (Crispin
Raymond) และเกร็ก ริชาร์ดส์ (Greg Richards) ที่กล่าวว่า พวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการท่องเที่ยว