Page 157 - ทักษะการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 157
148
ชุมชนนักปฏิบัติมีความส าคัญอย่างไร
ชุมชนนักปฏิบัติเกิดจากลุ่มที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการมารวมกัน เกิดจากความ
ใกล้ชิด ความพอใจจากการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน การรวมตัวกันในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ จะเอื้อต่อการ
เรียนรู้ และการสร้างความรู้ใหม่ ๆ มากกว่าการรวมตัวกันเป็นทางการ มีจุดเน้นคือ ต้องการเรียนรู้ร่วมกัน
จากประสบการณ์การท างานเป็นหลัก การท างานในเชิงปฏิบัติ หรือจากปัญหา ในชีวิตประจ าวัน หรือเรียนรู้
เครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อน ามาใช้ในการพัฒนางาน หรือวิธีการท างานที่ได้ผล และไม่ได้ผล การมีปฏิสัมพันธ์
ระหว่างบุคคล ท าให้เกิดการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้ฝังลึก สร้างความรู้ และความเข้าใจ ได้มากกว่าการ
เรียนรู้จากหนังสือ หรือการฝึกอบรมตามปกติ เครือข่ายที่ไม่เป็นทางการ ในเวทีชุมชน นักปฏิบัติซึ่งมี
สมาชิกจากต่างหน่วยงาน ต่างชุมชน จะช่วยให้องค์กร หรือชุมชนประสบความส าเร็จได้ดีกว่าการสื่อสาร
ตามโครงสร้างที่เป็นทางการ
ชุมชนนักปฏิบัติเกิดขึ้นได้อย่างไร
การรวมกลุ่มปฏิบัติการ หรือการก่อตัวขึ้นเป็นชุมชนนักปฏิบัติได้ ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคน คน
ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้เป็นเบื้องต้น คือ
1. ต้องมีเวลา คือ มีเวลาที่จะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มาร่วมคิด ร่วมท า ร่วมแก้ปัญหา ช่วยกัน
พัฒนางาน หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น หากคนที่มารวมกลุ่มไม่มีเวลา หรือไม่จัดสรรเวลาไว้ เพื่อ
การนี้ก็ไม่มีทางที่จะรวมกลุ่มปฏิบัติการได้
2. ต้องมีเวทีหรือพื้นที่ การมีเวทีหรือพื้นที่คือการจัดหาหรือก าหนดสถานที่ที่จะใช้ในการพบกลุ่ม
การชุมชน พบปะพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตามที่กลุ่ม ได้ช่วยกันก าหนด
ขึ้น เวทีดังกล่าวอาจมีหลายรูปแบบ เช่น การจัดประชุม การจัดสัมมนา การจัดเวที ประชาคม เวทีข้างบ้าน
การจัดเป็นมุมกาแฟ มุมอ่านหนังสือ เป็นต้น
การจัดให้มีเวทีหรือพื้นที่ดังกล่าว เป็นการท าให้คนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในบรรยากาศ
สบาย ๆ เปิดโอกาสให้คนที่สนใจเรื่องคล้าย ๆ กัน หรือคนที่ท างานด้านเดียวกันมีโอกาส จับกลุ่มปรึกษา
หารือกันได้โดยสะดวก ตามความสมัครใจ ในภาษาอังกฤษเรียกการชุมนุมลักษณะ นี้ว่า Community of
Practices หรือเรียกย่อว่า CoPs ในภาษาไทยเรียก ชุมชนนักปฏิบัติ
ชุมชนนักปฏิบัติเป็นค าที่ใช้กันโดยทั่วไป และมีค าอื่น ๆ ที่มีความหมายเดียวกันนี้ เช่น ชุมชนแห่ง
การเรียนรู้ ชุมชนปฏิบัติการ หรือเรียกค าย่อในภาษาอังกฤษว่า CoPs ก็เป็นที่เข้าใจกัน
3. ต้องมีไมตรี คนต้องมีไมตรีต่อกันเมื่อมาพบปะกัน การมีไมตรีเป็นเรื่องของใจ การมีน ้าใจต่อกัน
มีใจให้กันและกัน เป็นใจที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งเดิม
ๆ มีความเอื้ออาทร พร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
การรวมกลุ่มปฏิบัติการ จะด าเนินไปได้ด้วยดี บรรลุตามเป้ าหมายที่ตั้งใจ จะต้องมีเวลา เวทีไมตรี
เป็นองค์ประกอบที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง และเอื้ออ านวยต่อการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย
ในกลุ่ม จะท าให้ได้มุมมองที่กว้างขวางยิ่งขึ้น