Page 38 - หลักสูตรประวัติศาสตร์ฯ จ.ร้อยเอ็ด
P. 38
15
การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
ทั้งการประเมินผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และการประเมินผล
การเรียนรู้ ที่ เกิดจากการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ เรียนนั้นมีความเหมาะสมกับวิธีการและเครื่องมือวัดและ
ประเมินผลแบบไม่เป็นทางการ ข้อมูลที่ได้ก็จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ช่วยให้ผู้สอนเข้าใจพฤติกรรมของผู้เรียนได้อย่างลึกซึ้งกว่า ทั้งยืดหยุ่นตามสถานการณ์ต่างๆ
ในเอกสาร “แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑” ได้เสนอแนะการประเมินแบบต่างๆ ไว้ ดังนี้
๑. การสังเกตพฤติกรรม เป็นการเก็บข้อมูลจากการดูการปฏิบัติของผู้เรียน โดยไมขัดจังหวะการ
่
ทำงานหรือการคิดของผู้เรียน การสังเกตพฤติกรรมเป็นสิ่งที่ทำได้ตลอดเวลาแต่ควรมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่า
ื่
ต้องการประเมินอะไร ควรสังเกตหลายครั้ง หลายสถานการณ์เพอป้องกันความลำเอียง ทั้งนี้อาจมีเครื่องร่วม
ด้วย เช่น สมุดจดบันทึก แบบมาตรประมาณคาแบบตรวจสอบรายการ
่
๒. การสอบปากเปล่า เป็นการให้ผู้เรียนได้แสดงออกด้วยการพูด ตอบประเด็นเกี่ยวกับการเรียนรู้ตาม
มาตรฐาน รูปแบบนี้ผู้เรียนและผู้สอนมีปฏิสัมพันธ์กันโดยตรง สามารถมีการอภิปราย โต้แย้ง ขยายความ และ
ปรับแก้ไขความคิดเห็นกันได้
๓. การพูดคุย เป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน สามารถดำเนินการเป็นกลุ่มหรือ
รายบุคคลก็ได้ ใช้ในการตรวจสอบว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพียงใด เป็นข้อมูลสำหรับพัฒนา
๔. การใช้คำถาม การใช้คำถามเป็นเรื่องปกติมากในการจัดการเรียนรู้ แต่ควรเป็นคำถามที่ท้าทายให้
ผู้เรียนทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่ลึกซึ้งขึ้น
๕. การเขียนสะท้อนการเรียนรู้ (Journals) เป็นรูปแบบการบันทึกการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเขียนทบทวนสิ่ง
ที่ตนเองรับรู้จากการเรียน แล้วสะท้อนการเรียนรู้ของตนเองในลักษณะ “นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...” อาจ
เขียนในมิติของความรู้ กระบวนการ และเจตคติที่ได้จากการเรียนนอกจากนี้ยังสามารถให้ผู้เขียนเขียนตอบ
กระทู้หรือข้อคำถามของครูที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดหรือเป้าหมายการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ได้
๖. การประเมินการปฏิบัติ เป็นวิธีการประเมินงานหรือกิจกรรมที่ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบัติงาน
ให้ทราบถึงผลการพัฒนาของผู้เรียน การประเมินลักษณะนี้ ผู้สอนต้องเตรียมสิ่งสำคัญ ๒ ประการ คือ ภาระ
งาน (tasks) หรือกิจกรรมที่จะให้ผู้เรียนปฏิบัติ เช่น การทำโครงการ/โครงงาน การสำรวจ การนำเสนอ การ
สร้างแบบจำลอง การท่องปากเปล่า การสาธิต การจัดนิทรรศการ การแสดงละคร เป็นต้น และเกณฑ์การให้
คะแนน (Scoring Rubrics)
๗. การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน (Portfolio Assessment) เป็นการเก็บรวบรวมชิ้นงานของผู้เรียน
เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าและความสำเร็จของผู้เรียน เช่น แฟ้มสะสมผลงานที่แสดงความก้าวหน้าของผู้เรียน
้
ต้องมีผลงานในช่วงเวลาต่างๆ ที่แสดงความก้าวหน้าของผู้เรียน หากเป็นแฟมสะสมงานดีเด่นต้องแสดงผลงาน
ที่สะทอนความสามารถของผู้เรียนโดยผู้เรียนต้องแสดงความคิดเห็นหรือเหตุผลที่เลือกผลงานนั้น เก็บไว้ตาม
้
้
วัตถุประสงค์ของแฟมสะสมผลงาน แนวทางในการจัดทำแฟ้มผลงาน มีดังนี้
● กำหนดวัตถุประสงค์ของแฟ้มสะสมผลงานว่าสะท้อนความก้าวหน้าหรือความสำเร็จของผู้เรียนใน
เรื่องใด ด้านใด ทั้งนี้อาจพิจารณาจากตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้