Page 13 - TH Edition Ver3
P. 13

11



                      ควำมส ำคัญของพระไตรปิฎก


                              ต่อค ำถำมที่ว่ำ ท ำไมจะต้องมีกำรจัดกำรแปลพระไตรปิฎกค ำต่อค ำ หรือ ท ำไมจะต้องศึกษำ

                      พระไตรปิฎกทั้งหมด ค ำตอบส ำหรับค ำถำมนี้ จำกกำรศึกษำหนังสือเรื่อง “พระไตรปิฎก :  สิ่งที่ชำว
                        ุ
                      พทธต้องรู้”  โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) ที่ท่ำนได้อธิบำยถึงควำมส ำคัญของพระไตรปิฎก ใน
                      ประเด็นต่ำงๆสรุปได้ 3 ประเด็นหลักดังนี้


                              1. พระไตรปิฎกเป็นที่รักษำพระรัตนตรัย เนื่องจำกพระไตรปิฎกเป็นกำรอธิบำยถึงพระธรรม

                                   ุ
                      วินัยของพระพทธองค์ ดังนั้นกำรมีพระไตรปิฎกจึงเป็นเสมือนมีศำสดำแทนพระองค์ ดังที่เคยตรัสแก่
                      พระอำนนท์ก่อนเสด็จปรินิพพำนไว้ว่ำ


                              “โย โว อำนนฺท มยำ ธมฺโม จ วินโย จ เทเสติ ปญฺญตฺโต โส โว มมจ̣จเยน สตฺถำ

                              ดูก่อนอำนนท์ แด่เธอทั้งหลำย อันธรรมและวินัยใดที่เรำแสดงแล้วและบัญญัติแล้ว ธรรมและ

                              วินัยนั้น โดยกำลที่เรำล่วงลับไปแล้ว จักเป็นศำสดำของเธอทั้งหลำย”


                      จึงเท่ำกับว่ำ พระไตรปิฎกเป็นที่สถิตของพระพุทธเจ้ำ นับได้ว่ำเป็นพระพทธ ในส่วนที่เป็นพระธรรม ก็
                                                                                  ุ
                      เนื่องจำกพระธรรมวินัย หรือเรียกสั้นๆว่ำ พระธรรม ปรำกฏอยู่ในพระไตรปิฎก กำรมีพระไตรปิฎกจึง

                      เท่ำกับกำรมีพระธรรม และในส่วนที่เป็นพระสงฆ์ก็เนื่องจำกในพระไตรปิฎก ภิกษุทั้งหลำยบวชขึ้นมำ

                      และอยู่ได้ด้วยพระวินัยอันเกิดจำกพุทธบัญญัติ ที่ปรำกฏในพระไตรปิฎก


                              2.  พระไตรปิฎกเป็นหลักฐำนในกำรศึกษำเล่ำเรียน ที่ครบองค์ประกอบทั้ง 3  ประกำร ของ
                      แก่นศำสนำ คือปริยัติ (ค ำสั่งสอนอันจะต้องเล่ำเรียนได้แก่พุทธพจน์) ปฏิบัติ (ปฏิปทำอนจะต้องปฏิบัติ
                                                                                             ั
                                                                                          ั
                      ได้แก่ อฏฐังคิกมรรคหรือไตรสิกขำ คือ ศีล สมำธิ ปัญญำ)  และปฏิเวธ (คือผลอนจะพงเข้ำถึงหรือ
                                                                                                ึ
                             ั
                                                              7
                      บรรลุด้วยกำรปฏิบัติได้แก่มรรค ผล และนิพพำน )
                                                         ุ
                                                                              ุ
                              3.  พระไตรปิฎกเป็นหลักของพทธบริษัททั้ง 4  คือชำวพทธ 4  กลุ่ม ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี
                                                                                             ุ
                      อุบำสกอุบำสิกำ ซึ่งอยู่ในรูปของคัมภีร์ ที่จะต้องเรียนรู้เข้ำใจ เพื่อช่วยกันธ ำรงให้พระพทธศำสนำด ำรง
                      อยู่ และเกิดประโยชน์ ซึ่งพทธบริษัททั้ง 4  จะต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้อง ในกำรช่วยจรรโลงพระ
                                             ุ
                      ศำสนำไว้ โดยที่คุณสมบัติดังกล่ำวได้แก่


                                                                                ุ
                              3.1 เป็นผู้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในหลักธรรมค ำสอนของพระพทธเจ้ำได้ดีและประพฤติปฏิบัติ
                      ได้ถูกต้องตำมค ำสอน จึงต้องเรียนรู้จำกพระไตรปิฎก


                              3.2 เป็นผู้สำมำรถบอกกล่ำว และน ำสั่งสอนผู้อื่น จึงต้องท ำควำมเข้ำใจและประพฤติปฏิบัติ

                      ให้เป็นตัวอย่ำง ซึ่งจะต้องอำศัยพระไตรปิฎกเป็นฐำนในกำรสร้ำงตนให้เป็นต้นแบบ



                      7  วินย.อ. 1/264; ม.อ. 3/147,523; องฺ.อ. 3/391
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18