Page 7 - การถอดบทเรียนการทำงานA4
P. 7
สามารถเสริมพลังให้นักพัฒนาจากองค์กรภาคประชาสังคมและหรือองค์กรชุมชนซึ่งมีพื้นฐานเป็น
้
ู
ิ
ู
้
นักปฏิบัตการให้สามารถจัดการความรได้ ด้วยการใช้การประเมินสร้างความรจากการทำงานและ
นำความรู้นั้นๆไปใช้เพื่อยกระดับคุณภาพการทำโครงการพัฒนาแล้ว ระบบการติดตามประเมินผล
่
่
ั
ิ
จะสามารถฝังตวและกลายเป็นสวนหนึงของการบรหารจัดการโครงการได้โดยไม่เป็นกิจกรรมแปลก
แยกและดำเนินการแบบแยกส่วนดังเช่นที่ผ่านมาอีกต่อไป
และด้วยเป้าหมายของโครงการพัฒนาใดๆมักเริ่มต้นที่การมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลง
่
ื
็
พฤติกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องด้านความรู้ความเข้าใจ ทัศนคติ ความเชอ ตลอดจนการกระทำในประเดน
้
ต่างๆ ของแต่ละมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรมหรือ สิ่งแวดล้อม เป็นตน
ตัวอย่างเช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สนับสนุนให้หน่วยงาน
ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม สถาบันการศึกษาและชุมชนท้องถิ่นมีขีดความสามารถในการ
ดำเนินงานสร้างเสริมสขภาพโดยขับเคลื่อนทั้งในเชิงโครงสร้างการทำงาน เชิงนโยบาย เชง
ุ
ิ
มาตรการทางสังคมและสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพและวิถีชีวิตของคนที่เอื้อต่อการ
สร้างเสริมสุขภาวะ(ซึ่งหมายถึงการมีสุขภาพดีใน 4 มิติได้แก่ กาย จิต ปัญญาและสังคม) (สสส.,
มปป.ก: 6-7) ผ่านการทำโครงการสร้างเสริมสุขภาวะระดับต่างๆทั้งในแผนเชิงประเด็น(Issues-
Based) แผนเชิงพื้นทีและกลุ่มเป้าหมาย(Setting-Based) หรือแผนเชิงระบบ (System - Based)
่
(สสส., มปป.ข: 41) ดังนั้นในคู่มือนี้จะใช้โครงการสร้างเสริมสุขภาพของสสส. เป็นกรณีตัวอย่าง
ื
่
รปธรรมเพอเป็นภาพแทนเวลากลาวถึงสงทีเรยกว่าโครงการพฒนา
ิ
่
ี
ู
ั
่
่
การทำงานดานการสร้างเสริมสุขภาพ ในทัศนะของสำนักงานกองทุนสนับสนุน
้
้
การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ถือเป็นยุทธวิธีในเชิงรุกที่จะให้ผลในการแก้ปัญหาสุขภาพไดดีที่สด
ุ
เห็นได้จากความพยายามสนับสนุนให้มีการพัฒนาทักษะการทำงานด้านสร้างเสริมสุขภาพด้วยการ
ึ
้
่
ั
้
ื
ุ
ิ
เป็น “ผู้สร้างเสรมสขภาพ” (Health Promoter) หรอนักสรางเสรมสขภาวะ ขนในสงคมไทยในชวง
ุ
ิ
20 ปีที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้ประชาชนมีสุขภาพดีระยะยาวทั้งในเชง
ิ
โครงสร้างการทำงาน ในเชิงนโยบายและมาตรการทางสังคม การบริการด้านสุขภาพ รวมไปถึง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสุขภาพและวิถีชีวิตของคน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพเองที่มีความ
หลากหลายทั้งในเชิงประเดน มีความซับซ้อนเกี่ยวข้องกับมิติต่างๆอีกทั้งยังทับซ้อนกับปัญหาทาง
็
สังคมอื่นๆ(สสส., มปป.ข: 39-40) จึงทำให้มีความเป็นพลวัตสูงแปรเปลี่ยนไปตามกระแสการ
เปลี่ยนแปลงทางสังคมที่กำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นยุคของดิจิทัล สห
วิทยาการและระบบอัตโนมัติ ที่พรมแดนระหว่างโลกความจริงและโลกไซเบอร์มีสถานะคลุมเครือ
โดยคนกลับมาเป็นหัวใจหลักในยุคแห่งการบูรณาการและสังคมที่เชื่อมโยงคนกับวิทยาการเขา
้
ิ
ด้วยกันนั้นต้องการบุคลากรผู้มีความสามารถใหม่ที่ต้องเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวต (ตรองสิริ ทองคำใส,
(แปล), 2562: 14, 40-57)
่
นักสร้างเสริมสุขภาวะจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันกับธรรมชาติของปัญหาสุขภาพทีกำลังจะ
่
่
ั
่
ั
ู
เปลียนรปแบบไป ตวอยางเชน เราต้องเผชิญกับโรคอุบัติใหม่ในวงรอบที่มีระยะเวลาสั้นลง อีกทั้งยง
ต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพราะยิ่งนานวัน สิ่งที่มาหักล้างความรู้กับ
ข้อมูลด้านสุขภาพเดิมๆนั้นยิ่งเกิดเร็วขึ้น งานด้านการสร้างเสริมสุขภาพจึงทวีความซับซ้อนขึ้นและ
่
ั
คู่มือการถอดบทเรียนการทำงาน (Lessons Distilled) โดยประภาพรรณ อุนอบและณภทร ประภาสุชาติ
2