Page 73 - 2557 เล่ม 1
P. 73
๗๓
ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๘๗๔/๒๕๕๔, ๓๐๕๘/๒๕๕๓, ๒๕๔๐/๒๕๕๔
และ ๒๐๘๘/๒๕๕๓ ตามลําดับ
จําเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จ จําเลยที่ ๑ ขอแก้ไข
คําให้การเป็นว่า รับสารภาพฐานพรากและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อ
การอนาจารส่วนความผิดฐานอื่นให้การปฏิเสธ จําเลยที่ ๒ ขอถอนคําให้การเดิม
และให้การใหม่เป็นรับสารภาพ และจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๕ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับ
จําเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ระหว่างพิจารณาจําเลยที่ ๔ หลบหนี ศาลชั้นต้นมีคําสั่งจําหน่ายคดีชั่วคราว
สําหรับจําเลยที่ ๔ ออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘๓ ทวิ วรรคแรก วรรคสอง (ที่ถูก ไม่ต้องระบุวรรคแรก), ๓๑๗ วรรคสาม,
๒๗๗ วรรคหนึ่ง วรรคสี่ (ที่ถูก ไม่ต้องระบุวรรคหนึ่ง) ประกอบมาตรา ๘๖ การกระทํา
ของจําเลยที่ ๑ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทง
ความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน
สิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร จําคุก ๑๐ ปี ฐานพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไป
เพื่อการอนาจาร กับฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันกระทําชําเราอันมีลักษณะ
เป็นการโทรมเด็กหญิง เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง วรรคสี่ (ที่ถูก ไม่ต้องระบุวรรคหนึ่ง)
ประกอบมาตรา ๘ ๖ , ๕๓ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๙๐ จําคุก ๓๓ ปี ๔ เดือน รวมจําคุกจําเลยที่ ๑ มีกําหนด ๔๓ ปี ๔ เดือน
จําเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๕ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง
วรรคสี่ (ที่ถูก ไม่ต้องระบุวรรคหนึ่ง) ให้จําคุกจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๕ ตลอดชีวิต
จําเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพเมื่อถามค้านพยานโจทก์ปากสุดท้ายเสร็จแล้วและ
นําสืบในทางปฏิเสธไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ส่วนจําเลยที่ ๒ หลบหนีเมื่อ
สืบพยานโจทก์ปากสําคัญไปแล้ว เมื่อถูกจับได้จึงให้การรับสารภาพเป็นการจํานน
ต่อพยานหลักฐาน จึงไม่มีเหตุลดโทษ นับโทษของจําเลยที่ ๓ ต่อจากโทษของ
จําเลยที่ ๒ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๐๕๘/๒๕๕๓ ของศาลชั้นต้น และนับโทษ