Page 335 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 335

๓๒๒



                 เป็นต้น ปัญหานี้ยังไม่มีค าวินิจฉัยของศาลฎีกา ทางปฏิบัติของศาลชั้นต้นยังแตกต่างกัน บางศาลออกหมาย

                                                                                   ุ
                 จ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จ าเลย บางศาลไม่ออกให้ เพราะเห็นว่าคดียังอยู่ระหว่างอทธรณ์ฎีกา ท าให้จ าเลยได้รับ
                 สิทธิและประโยชน์ตามกฎหมายราชทัณฑ์แตกต่างกัน

                            ผู้ศึกษามีความเห็นว่า อทธรณ์หรือฎีกาของโจทก์ที่ไม่ได้ขอให้เพมโทษจ าคุกและปรับจ าเลย
                                                                                    ิ่
                                                 ุ
                                                                                     ิ
                      ุ
                 ศาลอทธรณ์หรือศาลฎีกาไม่อาจเพมเติมโทษจ าเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา
                                              ิ่
                 ๒๑๒  จึงควรออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จ าเลย

                 ๑๓. กรณีจ าเลยอุทธรณ์หรือฎีกาฝ่ายเดียวในประเด็นไม่เกี่ยวกับโทษจ าคุกและปรับจ าเลย


                                       ุ
                            คดีที่จ าเลยอทธรณ์หรือฎีกาฝ่ายเดียวในประเด็นไม่เกี่ยวกับโทษจ าคุกและปรับจ าเลย เช่น
                                                     ุ
                  ุ
                                        ุ
                 อทธรณ์เรื่องริบของกลาง อทธรณ์ในเรื่องอปกรณ์ของโทษ เช่น การขับไล่จ าเลยออกจากป่าสงวน การพกใช้
                                                                                                        ั
                 ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น  ปัญหานี้ยังไม่มีค าวินิจฉัยของศาลฎีกาและทางปฏิบัติของศาลชั้นต้นยังคงแตกต่างกัน
                 เช่นเดียวกับปัญหาข้อ ๑๒
                            ศึกษามีความเห็นว่า อทธรณ์หรือฎีกาของจ าเลยไม่กระทบถึงโทษจ าคุกและปรับของจ าเลย
                                                ุ
                                              ิ่
                 ศาลอทธรณ์หรือศาลฎีกาไม่อาจเพมเติมโทษจ าเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา
                                                                                    ิ
                      ุ
                 ๒๑๒  จึงควรออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จ าเลย


                                           ื่
                                                                                             ุ
                 ๑๔. กรณีการออกหมายจ าคุกเมอคดีถึงที่สุดในคดีที่กฎหมายบัญญัติให้ค าพิพากษาของศาลอทธรณ์เป็นที่สุด
                            ปัญหานี้ขอกล่าวเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๕๐
                                  ิ
                                                                                  ิ
                 พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๙ และพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีทุจริตและประพฤติ
                 มิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ แยกปัญหาเป็น ๒ กรณี ดังนี้

                            ๑๔.๑ กรณีไม่มีความผิดอื่นรวมอยู่ด้วย


                                                                                                  ิ
                                                 ิ
                                          ุ
                                  เมื่อศาลอทธรณ์พพากษาจ าคุกจ าเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดี
                 ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือพระราชบัญญัติวิธี
                                                            ิ
                 พจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวบัญญัติให้ค าพพากษาศาลอทธรณ์
                                                                                           ิ
                                                                                                      ุ
                  ิ
                                                                                        ุ
                 เป็นที่สุด ศาลชั้นต้นต้องออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในวันอานค าพพากษาศาลอทธรณ์ ไม่ว่าคู่ความยื่น
                                                                      ่
                                                                             ิ
                                                   ิ
                 ขอขยายระยะเวลาฎีกาหรือไม่ ตามค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๙๑๕/๒๕๖๔ คดีสืบเนื่องจากศาลอทธรณ์แผนก
                                                                                                 ุ
                                                             ิ
                                            ิ
                 คดีทุจริตและประพฤติมิชอบพพากษายืนตามค าพพากษาศาลชั้นต้นให้จ าคุกจ าเลย ๕๐ ปี ศาลชั้นต้น
                  ่
                        ิ
                                                                                 ั
                 อานค าพพากษาศาลอทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบให้คู่ความฟงเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒
                                    ุ
                 ต่อมาโจทก์ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลายื่นฎีกาถึงวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ แต่ไม่ยื่นฎีกาภายในก าหนด
   330   331   332   333   334   335   336   337   338   339   340