Page 538 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 538
๕๒๖
ทางได้ ค าว่า "ให้ใช้ทาง" ตามสัญญาดังกล่าวย่อมหมายถึงการให้ใช้ทางได้เป็นปกติวิสัยทั่วไปซึ่งหากจ าเลย
ท าทางขึ้นกว้างยาวเท่าใด คู่สัญญาก็ย่อมมีสิทธิใช้ได้ตามที่จ าเลยท าขึ้น การที่จ าเลยปิดกั้นทางเข้าออกสู่ที่ดิน
ื่
ี
ของโจทก์ให้เหลือเพยง ๑ เมตร เพอมิให้โจทก์น ารถยนต์เข้าไปสู่ที่ดินของตนได้ ย่อมเป็นการท าให้สิทธิการใช้
ทางตามปกติวิสัยของโจทก์ลดน้อยลงไม่สะดวกในการใช้ทางที่ท าขึ้นตามปกติวิสัยทั่วๆไป จึงเป็นการผิดสัญญา
> ค าพิพากษาฎีกาที่วินิจฉัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑
ิ
ค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๔๗๓๐/๒๕๔๓ โจทก์เป็นสถาบันการเงินมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราบัญชีของลูกค้าอยู่
ตลอดว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร เมื่อปรากฏว่าจ าเลยซึ่งเป็นลูกค้าโจทก์ไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีโจทก์ย่อม
ั
จะต้องทวงถามหรืออาจบอกเลิกสัญญาภายในเวลาอนสมควร มิใช่ถือโอกาสใช้สิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นเอาแก่
ี
จ าเลยในระยะเวลายาวนานเกินสมควร ถือได้ว่าการใช้สิทธิของโจทก์มิได้กระท าโดยสุจริต เมอมข้อสงสัย
ื่
ก็ต้องตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่จ าเลยซึ่งเป็นฝ่ายที่ต้องเสียหายในมลหนี้ โดยถือว่าสัญญาเลิกกันตั้งแต่
ู
วันที่จ าเลยมีเจตนาเลิกสัญญากับโจทก์โดยปริยายคือวันที่จ าเลยเดินสะพัดทางบัญชีครั้งสุดท้าย
> ค าพพากษาฎีกาที่วินิจฉัยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา ๓๘๖ และ
่
ิ
มาตรา ๑๑ ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๗๕/๒๕๔๓ โจทก์และจ าเลยได้ท าสัญญาซื้อขายอาคารชุดที่พักอาศัยใน
ราคา ๒,๘๖๕,๐๐๐บาท สัญญาได้ก าหนดไว้ว่า "ห้องชุดผู้ซื้อจะมีพนที่ประมาณ ๙๔.๕ ตารางเมตร ทั้งนี้โดย
ื้
ขึ้นอยู่กับการปรับขนาดพนที่ตามการก่อสร้างที่เป็นจริงและการจดทะเบียนที่ส านักงานที่ดิน ถ้าพนที่จริงของ
ื้
ื้
ห้องชุดผู้ซื้อมีมากกว่าหรือน้อยกว่าที่ระบุข้างต้นคู่สัญญายังคงต้องผูกพนตนตามสัญญานี้ แต่ถ้าแตกต่างตั้งแต่
ั
ร้อยละห้า (๕%) หรือมากกว่านั้น ราคาที่ต้องช าระตามสัญญานี้จะต้องปรับเพมหรือลดลงตามส่วนโดยการ
ิ่
ปรับราคาจะกระท าในการช าระเงินงวดสุดท้ายของราคา" แม้ข้อสัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎหมาย และใช้บังคับ
ได้ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์มาตรา ๑๕๑ แต่ศาลก็ต้องตีความสัญญาให้เป็นไปตามความ
่
ประสงค์ของคู่สัญญาในทางสุจริต โดยพิเคราะห์ถึงปกติประเพณี กล่าวคือ เจตนาของคู่สัญญาที่กระท าโดย
สุจริตซึ่งพเคราะห์ถึงปกติประเพณีประกอบแล้ว คงมิได้หมายความถึงขนาดที่ว่าไม่ว่าเนื้อที่ของอาคารชุดจะ
ิ
ี
แตกต่างมากกว่าร้อยละห้าสักเพยงใดก็ตาม โจทก์ก็ต้องรับโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดโดยไม่อาจปฏิเสธได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารชุดพพาทมีเนื้อที่ล้ าจ านวนถึง ๒๙.๙๘ ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๗ ซึ่งโจทก์
ิ
จะต้องช าระเงินเพมอกประมาณ ๙๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งจ าเลยได้บังคับให้โจทก์รับมอบซอกมุมห้องที่ติดกัน
ี
ิ่
ซึ่งมีเนื้อที่อก ๓๐ ตารางเมตร โดยมีฝากั้นห้อง ระหว่างเนื้อที่ ๙๕.๕ ตารางเมตรกับ ๓๐ ตารางเมตร
ี
ี
เป็นฝากั้นซึ่งเป็นคานรับน้ าหนักของตัวอาคาร โดยจ าเลยได้ท าช่องให้เข้าไปได้ทางด้านหลังเพยงเล็กน้อย
เท่านั้น ส่วนที่ล้ าจ านวนเป็นส่วนของเนื้อที่ซอกมุมห้องที่ติดกัน ซึ่งหากพิจารณาถึงความประสงค์ในทาง
สุจริต โดยพิเคราะห์ถึงปกติประเพณีแล้ว ก็หาควรบังคับให้โจทก์ต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นจ านวนมาก
ิ
่
เพื่อรับเอาเนื้อที่ล้ าจ านวนที่ไร้ประโยชน์ดังกล่าวนั้นหรือไม เพราะหากโจทก์ได้ทราบก่อนแล้วคงจะมได้