Page 708 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 708
๖๙๖
ที่คู่สัญญาปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ที่อตราร้อยละ ๑๕.๕ ต่อปี และ ๑๕.๗๕ ต่อปี แต่ต่ ากว่าดอกเบี้ย
ั
ิ
ั
ผิดนัดที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ในอตราร้อยละ ๑๘.๕ ต่อปี ซึ่งค าพพากษาฎีกาคดีนี้เป็นไปตามหลักที่ศาลฎีกา
วางแนวตลอดมาว่าอัตราดอกเบี้ยผิดนัดต้องไม่ต่ ากว่าอัตราดอกเบี้ยระหว่างสัญญาแล้ว
ั
ิ
ตามตัวอย่างค าพพากษาศาลฎีกาตัวอย่างที่ ๕ จะมีรูปแบบค าพพากษาที่ก าหนดอตราดอกเบี้ย
ิ
ั
ผิดนัดตามข้อตกลงระหว่างโจทก์กับกระทรวงยุติธรรมบวก ๒ ต่อปี จึงเป็นการก าหนดอตราดอกเบี้ยลอยตัว
บวกด้วย ๒ ต่อปี ซึ่งเข้ากันได้กับบริบทของสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน และเป็นเช่นเดียวกันกับ
้
้
สาระส าคัญตามที่กฎหมายที่แกไขเพิ่มเติม กล่าวคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแกไขเพิ่มเติมใหม่
มาตรา ๗ วรรคสอง ก าหนดให้อตราดอกเบี้ยตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง อาจปรับเปลี่ยนให้ลดลงหรือเพมขึ้น
ั
ิ่
เพอให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยปกติให้กระทรวงการคลัง
ื่
ิ
ั
ั
พจารณาทบทวนทุกสามปีให้ใกล้เคียงกับอตราเฉลี่ยระหว่างอตราดอกเบี้ยเงินฝากกับอตราดอกเบี้ยเงินให้กู้
ั
ของธนาคารพาณิชย์ ลักษณะที่กฎหมายบัญญัติดังกล่าวจึงเสมือนเป็นอตราลอยตัวในตัวเองเพราะเหตุปัจจัย
ั
ั
ั
อตราเฉลี่ยระหว่างอตราดอกเบี้ยเงินฝากกับอตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ของธนาคารพาณิชย์ดังที่เป็นที่ทราบกัน
ั
โดยทั่วไปว่าขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจในเวลานั้น ๆ รวมถึงอตราบวกเพมที่ศาลก าหนดยังสอดคล้องกบประมวล
ั
ั
ิ่
ิ่
่
กฎหมายแพงและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพมเติมใหม่ มาตรา ๒๒๔ ที่ให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดในอตราที่ก าหนดตาม
ั
ั
ิ่
ิ่
ั
มาตรา ๗ บวกด้วยอตราเพมร้อยละ ๒ ต่อปี มีปัญหาที่น่าคิดต่อไปว่าอตราดอกเบี้ยเพมร้อยละ ๒ ต่อปีจาก
อัตราดอกเบี้ยระหว่างที่มการปฏิบัติตามสัญญาจะถือเป็นอตราที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ หากเหมาะสมแล้วควร
ี
ั
ั
ิ่
ั
ิ
เป็นอตราบังคับตายตัวหรือเป็นเพยงกรอบบนหรือเพดานสูงสุดที่ให้ศาลมีดุลพนิจก าหนดอตราเพมดังกล่าว
ี
ิ
ไม่เกินร้อยละ ต่อปี ซึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่าศาลฎีกาวางหลักเรื่องเบี้ยปรับไว้ในค าพพากษา
๒
ที่ ๗๔๘๗/๒๕๔๒ แล้วว่า “เมื่อจ าเลยปฏิบัติผิดเงื่อนไขจ าเลยยอมเสียดอกเบี้ยในอตราสูงสุดส าหรับลูกค้าที่
ั
ั
ปฏิบัติผิดเงื่อนไขที่โจทก์ประกาศก าหนด ภายใต้ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว แทนอตรา
สูงสุดส าหรับลูกค้าทั่วไป ซึ่งขณะท าสัญญาอตราสูงสุดเท่ากับร้อยละ ๑๕.๒๕, ๑๖.๒๕ ต่อปี และอตราสูงสุด
ั
ั
ั
ส าหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขอตราร้อยละ ๑๘.๕ ต่อปี ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการก าหนดดอกเบี้ยไว้
ล่วงหน้าส าหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขในอตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยส าหรับลูกค้าทั่วไป เสมือนหนึ่งเป็น
ั
ื่
ค่าเสียหายในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ช าระถูกต้องสมควร โจทก์จะเรียกในรูปของดอกเบี้ย ค่าปรับ หรืออย่างอนก็ได้
เมื่อมีลักษณะดังกล่าวย่อมถือว่าเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙
ิ
การพจารณาว่าเบี้ยปรับตามสัญญามีอยู่จ านวนเท่าใด จะต้องน าอตราดอกเบี้ยที่จ าเลยต้องรับผิด
ั
ในขณะผิดนัด หักออกด้วยอตราดอกเบี้ยในขณะที่ไม่ผิดนัด แล้วศาลจึงพจารณาลดอตราดอกเบี้ยจาก
ั
ั
ิ
ส่วนต่างดังกล่าวข้างต้น”