Page 705 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 705
๖๙๓
พพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับช าระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน ๒๖,๐๗๘,๗๖๗.๑๓
ิ
ั
บาท และดอกเบี้ยในอตราร้อยละ ๒๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม
๒๕๔๐ ถึงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ กับดอกเบี้ยในอตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี ของต้นเงิน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐
ั
บาท นับถัดจากวันดังกล่าวจนกว่าจะช าระเสร็จโดยให้หักเงินจ านวน ๑,๔๓๕,๕๗๒.๒๘ บาท ที่ลูกหนี้ช าระ
แล้วออกก่อน”
ตัวอย่างที่ ๔ ค าพิพากษาที่ ๗๔๘๗/๒๕๔๒ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จ าเลยท าสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี
และสัญญากู้เงินจากโจทก์โดยมีข้อตกลงว่า จ าเลยยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดส าหรับลูกค้าทั่วไป ที่โจทก์
ประกาศภายใต้ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการก าหนดให้ธนาคารพาณิชย์ปฏิบัติในเรื่อง
ั
ดอกเบี้ยและส่วนลด เว้นแต่เมื่อจ าเลยปฏิบัติผิดเงื่อนไขจ าเลยยอมเสียดอกเบี้ยในอตราสูงสุดส าหรับลูกค้า
ั
ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขที่โจทก์ประกาศก าหนด ภายใต้ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว แทนอตรา
ั
ั
สูงสุดส าหรับลูกค้าทั่วไป ซึ่งขณะท าสัญญาอตราสูงสุดเท่ากับร้อยละ ๑๕.๒๕, ๑๖.๒๕ ต่อปี และอตราสูงสุด
ส าหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขอตราร้อยละ ๑๘.๕ ต่อปี ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการก าหนดดอกเบี้ยไว้
ั
ล่วงหน้าส าหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขในอตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยส าหรับลูกค้าทั่วไป เสมือนหนึ่งเป็น
ั
ค่าเสียหายในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ช าระถูกต้องสมควร โจทก์จะเรียกในรูปของดอกเบี้ย ค่าปรับ หรืออย่างอนก็ได้
ื่
เมื่อมีลักษณะดังกล่าวย่อมถือว่าเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ หาก
่
สูงเกินส่วนศาลมีอานาจลดลงเป็นจ านวนพอสมควรได้ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา ๓๘๓
่
วรรคหนึ่ง
ั
ิ
การพจารณาว่าเบี้ยปรับตามสัญญามีอยู่จ านวนเท่าใด จะต้องน าอตราดอกเบี้ยที่จ าเลยต้อง
รับผิดในขณะผิดนัด หักออกด้วยอตราดอกเบี้ยในขณะที่ไม่ผิดนัด แล้วศาลจึงพจารณาลดอตราดอกเบี้ยจาก
ิ
ั
ั
ส่วนต่างดังกล่าวข้างต้น
ในการกู้ยืมหรือกู้เบิกเงินเกินบัญชี จ าเลยต้องรับผิดช าระดอกเบี้ยในอตราสูงสุดส าหรับลูกค้าทั่วไป
ั
ซึ่งโจทก์ประกาศคิดก่อนปรับเป็นดอกเบี้ยในอตราผิดนัดในอตราร้อยละ ๑๕.๕ และ ๑๕.๗๕ ต่อปี และ
ั
ั
ิ
ต้องรับผิดช าระดอกเบี้ยผิดนัดในอตราร้อยละ ๑๘.๕ ต่อปี การที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพนิจลดเบี้ยปรับ
ั
ั
โดยพิพากษาให้จ าเลยคงรับผิดช าระดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ซึ่งต่ ากว่าอตราดอกเบี้ย
ที่จ าเลยต้องรับผิดตามสัญญาขณะที่ไม่ผิดนัด ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
ิ
ั
ให้ถูกต้องไปเสียทีเดียว เมื่อพจารณาสภาวะอตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินของประเทศ ประกอบกับทางได้
เสียของโจทก์ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาสมควรลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัด คงเหลือร้อยละ ๑๖
ต่อปี”