Page 701 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 701
๖๘๙
ื่
ตลอดจนเทคนิคการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งยังขาดอานาจต่อรองในการเข้าท าสัญญาเพอให้ได้มา
ซึ่งสินค้าหรือบริการ ท าให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ นอกจากนี้เมื่อเกิดข้อพพาทขึ้นหรือ
ิ
ิ
ว่ากระบวนการในการเรียกร้องค่าเสียหายต้องใช้เวลานานและสร้างความยุ่งยากให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องพสูจน์
ี
ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ซึ่งไม่อยู่ในความรู้เห็นของตนเอง อกทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการด าเนินคดีสูง ผู้บริโภค
จึงตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบจนบางครั้งน าไปสู่การใช้วิธีการที่รุนแรงและก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่าง
ผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอันส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ิ
นอกจากนี้พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ มาตรา ๓๕ ทวิ ยังก าหนดให้มีคณะกรรมการว่าด้วย
ื่
สัญญาเพอออกประกาศก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการก าหนดธุรกิจที่ควบคุมสัญญาและลักษณะของ
สัญญา ปัจจุบันธุรกิจที่ประกาศควบคุมสัญญาแล้วหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจขายห้องชุด ธุรกิจ
ให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยายนต์ ธุรกิจให้กู้ยืมเงินเพอผู้บริโภคของสถาบันการเงิน ธุรกิจการให้บริการ
ื่
ื่
ื่
โทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพอผู้บริโภค ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพออยู่อาศัยที่เรียกเก็บเงิน
ประกัน หรือธุรกิจการขายรถยนต์ใช้แล้ว เป็นต้น จะเห็นได้ว่าบริบทของสังคมไทยมีทิศทางหรือแนวโน้มที่จะ
ี
ปกป้องสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายที่มีฐานะเศรษฐกิจที่ด้อยกว่าหรือมีอานาจต่อรองที่ต่ ากว่าอกฝ่ายหนึ่ง แสดงให้
เห็นว่าสังคมไทยมีแนวโน้มที่ค่อนข้างชัดเจนว่าให้น้ าหนักกับทฤษฎีสังคมพทักษ์ (Paternalism) หรือ
ิ
ิ
รัฐพทักษ์มากกว่าทฤษฎีหลักเสรีภาพในการแสดงเจตนาของบุคคลหรือหลักความศักดิ์สิทธิ์ของการแสดง
เจตนา
อย่างไรก็ดี เมื่อสังคมไทยเกิดกระแสเรียกร้องให้ก าหนดส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้ – เงินฝาก (Nominal
Spread) ไม่ให้มีช่องว่างมากเกินไปถึงขนาดพรรคเศรษฐกิจใหม่ก าหนดเป็นนโยบายใช้ในการหาเสียงโดย
๑๔
เสนอให้ก าหนดส่วนต่างดอกเบี้ย - เงินกู้ช่องว่างไม่เกินร้อยละ ๓ ต่อปี รัฐบาลก็เริ่มตระหนักถึงปัญหา
ดังกล่าวจนกระทั่งเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔ นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจ าส านักนายกรัฐมนตรี
ิ่
แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมาย
แพงและพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ... (แก้ไขเพมเติมอตราดอกเบี้ยในกฎหมาย) เพอปรับปรุงอตราดอกเบี้ยตาม
ั
ื่
่
ิ่
ั
ั
ั
กฎหมาย ได้แก่ อตราดอกเบี้ยที่มิได้ก าหนดโดยนิติกรรมหรือโดยบทกฎหมายอนชัดแจ้ง จากอตราร้อยละ
ั
ั
๗.๕ ต่อปี เป็นร้อยละ ๓ ต่อปี และอตราดอกเบี้ยผิดนัด โดยปรับจากร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เป็นร้อยละ ๕ ต่อปี
และก าหนดฐานการค านวณดอกเบี้ยผิดนัดช าระหนี้ในหนี้ที่เจ้าหนี้ก าหนดให้ลูกหนี้ผ่อนช าระเป็นงวดโดย
ก าหนดให้เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ช าระหนี้งวดใด เจ้าหนี้อาจค านวณจ านวนดอกเบี้ยผิดนัดได้จากต้นเงินของงวด
๑๕
ที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกบสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่หลังจากนั้น
ั
๑๔ MONEY BUFFALO./ “เจาะลึกนโยบายสวนต่างดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก ๓ %”,/
www.moneybuffalo.in.th,/๒๒ มีนาคม ๒๕๖๒เจาะลึกนโยบายส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้ - เงินฝาก ๓ %
๑๕ คอลัมน์หุ้น-การเงิน,/ “ไฟเขียว แก้ กม.ประมวลกฎหมายแพ่ง-พาณิชย์ คิดอัตราดอกเบี้ย-ดอกบี้ยผิดนัด
ช าระ”,/ www.prachachat.net,/ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔