Page 700 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 700

๖๘๘




                                     ๑๓
                                                                                                    ิ
                                                                                     ั
                                                                                                 ้
                 ส าหรับธนาคารพาณิชย์  ซึ่งประกาศฉบับนี้จะให้ธนาคารพาณิชย์ต้องประกาศอตราดอกเบี้ยอางอง เช่น
                 อัตราดอกเบี้ยส าหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate หรือ MLR)
                 อตราดอกเบี้ยส าหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate หรือ MRR) และอตราดอกเบี้ยส าหรับ
                  ั
                                                                                         ั
                 ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate หรือ MOR) เป็นต้น รวมถึง
                 เพดานอตราดอกเบี้ยและส่วนลดที่ธนาคารพาณิชย์อาจเรียกเก็บได้สูงสุดได้ ซึ่งศาลฎีกาเคยมี
                         ั
                 ค าพพากษาที่ ๗๕๙๐/๒๕๕๕  วางแนวไว้แล้วว่า “ขณะที่จ าเลยที่ ๑ เปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับสุดท้าย
                    ิ
                 บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ จ. มีสิทธิคิดดอกเบี้ยอตราร้อยละ ๒๑ ต่อปี ตามที่บริษัทประกาศก าหนดโดยอาศัย
                                                        ั
                 อ านาจที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังประกาศมอบอ านาจให้ไว้ตามความในมาตรา ๓๐ (๑)

                 (๒) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.๒๕๒๒

                 โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังมีอานาจตามมาตรา ๔
                 แห่งพระราชบัญญัติดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ.๒๕๒๓ โดยค าแนะน าของธนาคารแห่ง

                 ประเทศไทย โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาย่อมมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวได้”

                        ฎีกาที่ ๒๕๕๒/๒๕๔๑  วินิจฉัยว่า “โจทก์ประกอบธุรกิจการธนาคารมีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากผู้มา

                 ติดต่อขอสินเชื่อจากธนาคารได้ตามกฎหมาย ซึ่งก าหนดขึ้นโดยประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
                                                                                                      ั
                 ที่ออกโดยอาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.๒๕๐๕ อตรา

                 ดอกเบี้ยดังกล่าวจึงก าหนดขึ้นตามกฎหมาย เมื่อมิใช่เป็นการก าหนดขึ้นตามที่คู่สัญญาตกลงกันเมื่อลูกหนี้

                 ไม่ช าระหนี้หรือไม่ช าระให้ถูกต้องสมควรจึงไม่มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับซึ่งศาลอาจลดลงเป็นจ านวนพอสมควรได้

                                            ั
                        แต่ถ้าธนาคารก าหนดอตราดอกเบี้ยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่มีสิทธิก็มีผลท าให้ดอกเบี้ยเป็นโมฆะ
                 เช่นเดียวกับเอกชนได้เช่นกันตามค าพพากษาที่ ๘๐๐๐/๒๕๕๓ ที่วินิจฉัยว่า “การที่ธนาคาร ธ. ระบุดอกเบี้ยไว้ใน
                                              ิ
                 สัญญากู้เงินทั้งสองฉบับอตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี ซึ่งเป็นอตราดอกเบี้ยส าหรับสินเชื่อผิดนัดช าระหนี้หรือ
                                                                 ั
                                       ั
                 ผิดสัญญา โดยในขณะดังกล่าวนั้นลูกหนี้ยังไม่ได้ผิดนัดช าระหนี้หรือผิดสัญญาแต่อย่างใด จึงเป็นการก าหนด

                 อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยและประกาศของธนาคาร ธ. อนเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนต่อ
                                                                                     ั
                 พระราชบัญญัติธนาคารพาณิชย์ มาตรา ๑๔ ซึ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอตรา
                                                                                                      ั
                                                                           ั
                 มาตรา ๓ (ก) ถือเป็นโมฆะ แม้ว่าตามความจริงแล้วจะยังไม่มีการคิดอตราดอกเบี้ยดังกล่าวในขณะที่ลูกหนี้
                 ยังมิได้ผิดนัดช าระหนี้หรือผิดสัญญาก็ตาม ก็หาเป็นเหตุให้ข้อก าหนดเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เป็นโมฆะกลับกลายไปเป็น
                 ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใดไม่ จึงเท่ากับว่าตามสัญญากู้เงินทั้งสองฉบับไม่อาจมีการคิดดอกเบี้ยกันได้”


                        นอกจากนี้รัฐบาลยังมีมาตรการเสริมเพอคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งมักเป็นฝ่ายลูกหนี้มากขึ้นกว่าอดีต
                                                          ื่
                 อกหลายมาตรการ เช่น ตราพระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๕๑โดยให้เหตุผลไว้ในส่วนหนึ่ง
                  ี
                                                         ิ
                 ของหมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ


                        ๑๓  ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส.๘๐/๒๕๕๑ เรื่อง หลักเกณฑ์การปฏิบัติในเรื่องดอกเบี้ย ส่วนลด
                 ค่าบริการต่างๆ และเบี้ยปรับส าหรับธนาคารพาณิชย์ ลงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๑
   695   696   697   698   699   700   701   702   703   704   705