Page 893 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 893
๘๘๑
ิ
โดยการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีค าพพากษาถึงที่สุดว่ากระท า
ความผิดจริง (Presumption of Innocence) เพอเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลและเป็นการ
ื่
ั
คุ้มครองความสงบเรียบร้อยของสังคมไปด้วยในขณะเดียวกัน อนเป็นการผสานประโยชน์ของบุคคลและ
ประโยชน์สาธารณะเข้าด้วยกัน
๗
๒.๓ หลักประกันสิทธิและเสรีภาพตามหลักสากล
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) การคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนมีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เดิมเป็นแนวคิดมุ่งไปในทางจ ากัดอานาจของกษัตริย์หรือผู้ปกครองที่ม ี
มากเกินไป พยายามก าหนดสิทธิต่างๆ ที่บุคคลควรได้รับจากรัฐในฐานะที่เป็นมนุษย์ในมาตรฐานเดียวกัน
โดยเห็นว่าสิทธิเหล่านี้เป็นสิทธิธรรมชาติ (Natural right) ที่เห็นว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน พระเจ้า
เป็นผู้สร้างมนุษย์ขึ้นมาและได้ให้สิทธิบางอย่างแก่มนุษย์ที่ไม่อาจโอนให้แก่กันและไม่มีใครล่วงละเมิดได้
ได้แก่สิทธิในชีวิต เสรีภาพ และสิทธิที่จะหาความสุข และรัฐทั้งหลายจะต้องรับรองสิทธิเหล่านี้สืบ
เนื่องมาจากกฎหมายธรรมชาติ (Natural law) ซึ่งอางว่ามีอยู่ตามธรรมชาติ คือเกิดมีมาเองโดยที่มนุษย์
้
ไม่ได้สร้างขึ้นเป็นกฎหมายที่อยู่เหนือรัฐ รัฐจะออกกฎหมายให้ขัดหรือแย้งกับกฎหมายธรรมชาติไม่ได้ เป็น
กฎหมายที่ใช้ได้ไม่จ ากัดเวลาไม่มีเวลาล่วงพนสมัย และใช้ได้ทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นรัฐใด ๆ นานาประเทศได้
้
ร่วมมือกันจัดท าปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนขึ้น
๒.๔ มาตรฐานสากลการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาในการไมถูกควบคุมตัวตามปฏิญญาสากล
่
ขององค์การสหประชาชาติวาด้วยสิทธิมนุษยชน
่
๘
ปฏิญญาสากลขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of
Homan Rights, 1948) เป็นตราสารที่เป็นมาตรฐานสากลที่ทุกประเทศลงมติยอมรับ และน าหลักการไป
บัญญัติไว้ในกฎหมายสูงสุดของแต่ละประเทศ โดยปฏิญญาฯ ฉบับนี้ มีแนวคิดทางปรัชญาเกี่ยวกับสิทธิ
ิ
มนุษยชนซึ่งได้รับอทธิพลมาจากหลักกฎหมายธรรมชาติ เพอรับรองสิทธิมนุษยชนให้เป็นมาตรฐานสากล
ื่
โดยสมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติยอมรับและประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเมื่อวันที่ 10
ธันวาคม ค.ศ. 1948 โดยปฏิญญาฯ นี้ ประกอบด้วยข้อความทั้งหมด 30 ข้อ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิใน
การคุ้มครองผู้ต้องหาหรือจ าเลย ในการปล่อยชั่วคราวมีบัญญัติรับรองไว้ในปฏิญญาฯ ข้อ 1, ข้อ 9, และขอ
้
11 (1)
๗ จิตติมา ก าธรวิวรรธน์. (2549). การปล่อยชั่วคราวโดยก าหนดเงื่อนไข : ศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศ
สหรัฐอเมริกา. วิทยานิพนธ์นิติศาสตร์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, หน้า 13.
๘ บุญจวน พานิช ( ๒๕๖๐ ) ดุลพินจในการปล่อยชั่วคราว ศึกษากรณีคดีที่ต้องห้ามฎีกา เอกสารวิชาการ
ิ
รายบุคคลการอบรมหลักสูตรผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ ๑๘ , หน้า ๗