Page 117 - OJA-01
P. 117

ไกล่เกลี่ย ให้เป็น...ผล  109




                     “ความเข้าใจ” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า ผู้ไกล่เกลี่ยต้องเห็นพ้อง

               ด้วยกับสิ่งที่คู่กรณีบอกเล่ามา  แต่ความเข้าใจในที่นี้หมายถึงว่า

               ผู้ไกล่เกลี่ยเข้าใจว่าคู่กรณีแต่ละฝ่ายคิดอย่างไร อะไรหรือเพราะเหตุใด
               จึงทำาให้คู่กรณีแต่ละฝ่าย คิดในลักษณะดังกล่าว ส่วนปัญหาว่าความคิด

               ของคู่กรณีแต่ละฝ่ายถูกหรือผิดอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ได้

               หมายความว่าเมื่อเรา “เข้าใจ” คู่กรณีแล้วเราจะต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่

               คู่กรณีพูดหรือบอกมาทั้งหมด


                     ความเข้าใจนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยการที่ผู้ไกล่เกลี่ยพยายาม “รับฟัง”

               คู่กรณีแต่ละฝ่ายอย่างแท้จริง ความเข้าใจที่เกิดขึ้นนั้นผู้ไกล่เกลี่ย
               ควรต้องทำาให้คู่กรณีแต่ละฝ่าย “รับรู้” ด้วยว่า สิ่งที่แต่ละฝ่ายบอกเล่ามานั้น

               ผู้ไกล่เกลี่ยรับทราบและเข้าใจแล้ว การทำาให้รับรู้นี้สามารถทำาได้หลาย

               วิธีการ นับแต่การสรุปหรือทวนสาระสำาคัญของคำาบอกเล่าของคู่กรณี
               กลับไปให้คู่กรณีฟัง เพราะหากผู้ไกล่เกลี่ยไม่ได้รับฟังอย่างตั้งใจแล้ว

               ก็คงไม่สามารถสรุปหรือทวนสาระสำาคัญได้ นอกจากนั้นอาจถามยำ้า

               เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่ผู้ไกล่เกลี่ยเข้าใจตรงกับสิ่งที่คู่กรณีพยายาม

               สื่อออกมาหรือไม่


                     เมื่อผู้ไกล่เกลี่ยเข้าใจสิ่งที่คู่กรณีแต่ละฝ่ายสื่อออกมาแล้วก็ควร

               ช่วยให้แต่ละฝ่ายเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย เพราะลำาพัง
               ผู้ไกล่เกลี่ยเข้าใจความคิดของคู่กรณีเท่านั้นคงไม่เพียงพอที่จะทำาให้

               สามารถระงับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ ควรต้องพยายามหาทางสื่อสารให้







       14-0092(001-174).indd   95                                             3/1/14   9:50 AM
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122