Page 66 - Q2-ManualConsult ภ.2
P. 66

55                                                                                                         56




       ๑.๓) กลุมบําบัดเพื่อการรักษา (therapeuticgroups) เปนกลุมที่มีเปาหมายใหสมาชิก  ลดลง เชน การมีหูแววลดลงเปนตน ชวยใหเกิดทักษะการเขาสังคม เพิ่มการมีปฏิสัมพันธกับสังคม 211
                                                                                    233
                                       222
 กลุมเกิดความเขาใจและพัฒนาความตระหนักรูอารมณความรูสึกของตนเองเพื่อใหเกิดการเปลี่ยนแปลง  สงเสริมการปรับตัวทางสังคม ลดพฤติกรรมดื่มสุราในสมาชิกกลุมติดสุรา การเขากลุมบําบัดยังเปน
 พฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น เพิ่มทักษะในการเผชิญปญหาในตัวสมาชิกกลุมเอง เชน กลุมจิตบําบัดกลุม   การเสริมสรางความหวัง ลดอารมณซึมเศราลดความรูสึกวิตกกังวล ชวยใหปรับตัวตอความเครียดและ
                                          244
 จิตละครบําบัด เปนตน ซึ่งตามวัตถุประสงคของกลุมที่ทําใหสมาชิกเกิดการเรียนรูในระดับภาวะหยั่งรูใน  สามารถเผชิญกับปญหาไดดีขึ้น ลดความรูสึกแยกตัวและความรูสึกเปนตราบาป เกิดความมั่นใจใน
 ตนเองเขาใจการเจ็บปวยของตนเองและสามารถเผชิญปญหาไดอยางมีประสิทธิภาพจึงแบงกลุมจิตบําบัด  ตนเอง ชวยใหมองเห็นคุณคาในตัวเองมากขึ้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ไมพึงประสงคไปในทางที่ดีขึ้น 255

 ไดเปน 2 ประเภทยอย คือกลุมจิตบําบัดเพื่อเกิดภาวะหยั่งรู (insight grouppsychotherapy) และกลุม  การทํากลุมใหเกิดประสิทธิภาพนั้นประกอบดวย 2 สวนสําคัญ คือ เนื้อหา (content) และกระบวนการ

 จิตบําบัดแบบประคับประคอง (supportive group psychotherapy) ที่จะชวยใหสมาชิกเกิดการเรียนรู  (process) ซึ่งเนื้อหาไดแก คําพูดตางๆ ประเด็นในการอภิปรายที่จะพูดคุยกันในกลุม สวนกระบวนการ
 ในปญหาที่เปนปจจุบันของตนเองโดยเฉพาะเรื่องสัมพันธภาพและการดําเนินชีวิต ชวยสงเสริมสวนที่  ไดแก ปฏิสัมพันธที่เกิดขึ้นระหวางสมาชิกในกลุม โดยผูนํากลุมจะเปนผูที่เอื้ออํานวยใหเกิดขึ้นสมาชิก

 เขมแข็งของสมาชิกกลุมเพื่อใหสามารถแกไขปญหาไดอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น   กลุมที่เขารวมกลุมบําบัดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในตัวสมาชิกกลุมโดยผานปฏิสัมพันธภายในกลุมซึ่ง
                                                                                                     266
       ๑.๔) กลุมเพื่อนชวยเพื่อน (self – helpgroups) มีเปาหมายในการใหสมาชิกกลุมที่มี  ยาลอม (Yalom,1995) ไดเรียกวาปจจัยบําบัด (therapeutic factors) มีทั้งหมด 11 ปจจัย ไดแก
 ปญหาคลายกันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณกันทําใหเกิดการเรียนรูทักษะในการแกไขปญหา          ๒.๑) การมีความหวัง (instillation of hope) เปนการสรางความหวังใหกับสมาชิกกลุม

 เกิดความเห็นอกเห็นใจ ใหกําลังใจซึ่งกันและกัน โดยกลุมนี้พยาบาลอาจเปนเพียงแคผูประคับประคองให  โดยการเห็นสมาชิกในกลุมดีขึ้นโดยเฉพาะผูที่มีปญหาเดียวกันกับสมาชิกกลุมทําใหสมาชิกกลุมตระหนัก

 กลุมยังคงดําเนินอยูตอไป ซึ่งพยาบาลอาจไมใชเปนผูนํากลุมเองก็ได เชน กลุมสมาชิกกลุมเลิกสุรา   ไดวาสามารถเอาชนะปญหาไดทําใหเกิดความหวังมากยิ่งขึ้น
 กลุมญาติสมาชิกกลุมจิตเภท เปนตน         ๒.๒) ความรูสึกอันเปนสากล (universality) เกิดความรูสึกวาตนเองไมไดเปนผูที่มี

       ถึงแมวาการจัดกลุมใหกับสมาชิกกลุมจิตเวชนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แตโดยสวนใหญ  ปญหาอยูคนเดียว การเขารวมกลุมจะทําใหสมาชิกกลุมไดเห็นสมาชิกคนอื่นวามีปญหามากมาย
 จะพบการจัดกลุมบําบัดเพื่อการรักษามากที่สุด เชน กลุมจิตบําบัด กลุม Cognitive  behavioral   เชนเดียวกับตนเอง เชน ในกลุมสมาชิกกลุมจิตเภทอาจพบวาไมใชมีเพียงตนเองเทานั้นที่เกิดอาการหูแวว

 therapy  เปนตน รองลงมาคือ กลุมใหความรูตางๆ เชน การผอนคลายความเครียด ทักษะการแกไข  สามารถที่จะบอกกับผูอื่นไดไมไชเรื่องนาอับอาย เปนตน

 ปญหา ทักษะทางสังคม เปนตน และกลุมที่สงเสริมใหสมาชิกกลุมไดระบายความคิดความรูสึก         ๒.๓) การไดรับขอมูล (imparting information)
 เชน กลุมศิลปะ เปนตน ซึ่งความถี่ของการทํากลุมนี้ก็ขึ้นอยูกับรูปแบบและวัตถุประสงคของการดําเนิน        สมาชิกในกลุมจะไดรับขอมูลตางๆ ทั้งทางตรงและทางออม สมาชิกกลุมซึ่งเปนสมาชิก

 กลุมนั้นๆ โดยทั่วไปจะดําเนินกลุมสัปดาหละ 1 ครั้ง   ในกลุมจะแลกเปลี่ยนขอมูล ประสบการณขอเสนอแนะซึ่งกันและกันทําใหเกิดการเรียนรูที่จะแกไข

       ๒) ปจจัยการบําบัดกับสมาชิกกลุมจิตเวช   ปญหาและไดขอมูลที่เปนประโยชนจากตัวผูนํากลุม
       กลุมบําบัดชวยสมาชิกกลุมจิตเวชใหเกิดการเรียนรูในการแกปญหา จากการแลกเปลี่ยน        ๒.๔) การรูสึกไดทําประโยชน (altruism)

 ประสบการณกันในกลุม และจากขอเสนอแนะของสมาชิกในกลุม ทําใหไดรับการประคับประคองจิตใจ
 ซึ่งเกิดจากบรรยากาศของกลุมที่ผอนคลายมีความรูสึกที่คลายกันกับสมาชิกในกลุม มีโอกาสไดชวยเหลือ  21 Castillo,Lacefield,  Baca,  Effectiveness  of  Group-Delivered  Cognitive  Therapy  and

 ซึ่งกันและกัน ลดความรูสึกโดดเดี่ยวและเกิดความรูสึกเห็นอกเห็นใจกัน ไดเรียนรูทักษะทางสังคมเพราะ  Treatment Length in Women Veterans with PTSD,Blankenship, & Qualls, 2014.

 กลุมเปดโอกาสใหสมาชิกไดมีปฏิสัมพันธกับผูอื่น ไดสังเกตบุคคลอื่นในการมีปฏิสัมพันธทางสังคมและ  22  สุดา รองเมือง, กนกพร เรืองเพิ่มพูล, พัชรินทร นินทจันทร,ปจจัยบําบัดในกลุมละครจิตบําบัดสําหรับ
 สามารถนํามาเปนแบบอยางของตนเองไดกลุมยังเปนแหลงยึดเหนี่ยวทางจิตใจ สมาชิกกลุมจะเกิดการ  นักศึกษาพยาบาล, การพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 2556.

 พัฒนาความรูสึกความเปนเจาของ ทําใหเกิดความรับผิดชอบตอสวนรวม เกิดความมั่นใจในตนเองเกิด  23  สุนทรี ศรีโกไสย, สมพร กิ่วแกว, ทิพศมัย ทายะรังษี,การพัฒนาโปรแกรมการบําบัดทางจิตสังคมแบบ

 ผลดีตอดานรางกายสงเสริมการเคลื่อนไหวลดความวิตกกังวล ไดระบายความคิดความรูสึกเกิดความรูสึก  กลุม สําหรับผูปวยโรคติดสุราที่มีการกลับปวยซ้ํา, 2553.
 201
 ผอนคลาย    24 พรนิภา หาญละคร, สมใจ รัตนมณี,และประกอบ ขันทอง,ผลของกลุมบําบัดแบบปรับเปลี่ยนความคิด
       จากการศึกษาผลการใชกลุมบําบัดอยางหลากหลายทั้งในสมาชิกกลุมจิตเวช และผูที่มี  และพฤติกรรมรวมกับการฝกสมาธิตอความซึมเศราและคุณภาพชีวิต ในผูติดเชื้อ/ผูปวยเอดส, 2552.

 ความเสี่ยงตอการเกิดปญหาสุขภาพจิต พบวาการเขากลุมบําบัด สงผลใหอาการทางจิตของสมาชิกกลุม  25 บรรจงศรี ฟกสมบูรณ,ผลของกิจกรรมกลุมบําบัดที่มีตอการเห็นคุณคาในตนเองของเด็กสมาธิสั้น :
            กรณีศึกษาโรงพยาบาลเอกชนแหงหนึ่ง,วิทยานิพนธมหาวิทยาลัยรามคําแหง,กรุงเทพฯ, 2554.

            26
                                                    ปราโมทย เชาวศิลปและรณชัย คงสกนธ,กลุมจิตบําบัดสําหรับคนไขใน, หางหุนสวนสามัญนิติบุคคล
 20
 เพิ่งอาง หนาเดียวกัน.   สหประชาพาณิชน, กรุงเทพมหานคร, 2542.


                                                                                                 คู่มือปฏิบัติงาน
                                                                                   การด�าเนินงานตามมาตรการพิเศษ  ๖๕
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71