Page 29 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 29
25
ประเด็นที่สำม ผู้เรียกร้องมี นาย บ. ให้การเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างหลายประการ เช่น
การวางต าแหน่งและระดับอาคารไม่สัมพันธ์กับพื้นที่ก่อสร้าง พื้นที่ก่อสร้างคับแคบ มีรั้วและวัสดุวางไว้อันเป็นอุปสรรค
และกีดขวางการท างานของผู้เรียกร้อง แนวสายโทรศัพท์พาดผ่านพื้นที่ก่อสร้าง การขุดดินและการขนย้ายดินที่ขุดขึ้นมานั้น
ไปถมไว้ที่อื่น การย้ายต าแหน่งก่อสร้างโรงก าเนิดไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงสถานที่ถมดิน และปัญหาการขุดดิน การถมดินที่
เพิ่มขึ้นจ านวนมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ความล่าช้าในการอนุมัติผลการเจาะส ารวจชั้นดิน ค าสั่งของผู้ควบคุมงานของ
ผู้คัดค้านให้หยุดตักดิน ท าให้เกิดความล่าช้าในการท างานมีเหตุฝนตกหนักในระหว่างการท างานและ Tower Crane ล้ม
รวมถึงการแก้ไขงวดงานตามสัญญา ผู้เรียกร้องจึงขอขยายระยะเวลา แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ หากได้รับการอนุมัติ ผู้เรียกร้อง
ก็ยังมีระยะเวลาที่จะท างานตามสัญญาให้แล้วเสร็จได้ส่วนผู้คัดค้านได้เร่งรัดให้ผู้เรียกร้องท างานให้เป็นไปตามก าหนดเวลามา
โดยตลอดตามเอกสารหมาย ค.17 รวม 6 ครั้ง เหลือระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาเพียง 123 วัน แต่ผู้เรียกร้องท างานได้
เนื้องานเพียงร้อยละ 5.63 เหลือเนื้องานอีกร้อยละ 94.37 ระยะเวลาที่เหลือเพียง 123 วัน นั้น ผู้คัดค้านจึงมีเหตุอัน
ควรเชื่อว่า ผู้เรียกร้องไม่อาจท างานให้แล้วเสร็จตามสัญญาได้ เพราะผู้คัดค้านได้เร่งรัดให้ผู้เรียกร้องท างานมาโดยตลอดแต่
ผู้เรียกร้องได้ปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไป โดยขอผัดผ่อนการท างานมาโดยตลอด การขอขยายระยะเวลาก่อสร้างของผู้เรียกร้อง
ในแต่ละครั้ง ก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิในการขอขยายระยะเวลา ผู้คัดค้านจึงไม่ขยายระยะเวลาให้ส่วนกรณีที่เห็น
ควรก็ขยายระยะเวลาให้ 1 ครั้ง 150 วัน
เมื่อรับฟังเป็นที่ยุติว่าการขอขยายระยะเวลาของผู้เรียกร้องไม่ได้รับการอนุมัติโดยผู้คัดค้าน นั้น
ผู้เรียกร้องไม่ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมาย จึงท าให้ระยะเวลาที่จะด าเนินการตามสัญญาของผู้เรียกร้องจึงเหลือเพียง
123 วันเท่านั้น ผู้เรียกร้องเพิ่งจะท างานได้เนื้องานเพียงร้อยละ 5.63 เหลือเนื้องานอีกร้อยละ 94.37 ผู้เรียกร้องใช้
ระยะเวลาก่อสร้างไปแล้ว 1,027 วัน ซึ่งควรจะก่อสร้างงานแล้วเสร็จในงวดที่ 22 มีความล่าช้าไป 21 งวดงาน การก่อสร้าง
ไม่มีความก้าวหน้าทั้งที่คณะกรรมการตรวจการจ้างของผู้คัดค้านได้เร่งรัดในที่ประชุมซึ่งมีผู้แทนของผู้เรียกร้องเข้าร่วม
ประชุมทุกครั้ง จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้เรียกร้องไม่สามารถท างานให้แล้วเสร็จภายในก าหนดเวลาและจะแล้วเสร็จล่าช้า
เกินก าหนดเวลาเป็นอันมาก ย่อมถือได้ว่าผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายปฏิบัติผิดสัญญาในสาระส าคัญ ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิบอกเลิก
สัญญาได้ ตามข้อ 137 ของระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535
ประเด็นที่สี่ ผู้เรียกร้องมี นาย บ. อ้างว่าได้ออกค่าใช้จ่ายในสัญญา ผู้เรียกร้องได้เบิกเงินและรับเงินจาก
ผู้คัดค้านส าหรับงานงวดที่ 1 ไปแล้ว ดังนั้น ผู้เรียกร้องจึงขอให้ผู้คัดค้านชดใช้เงินให้ผู้เรียกร้องจ านวน 37,105,763.61 บาท
ส่วนผู้คัดค้านมี นาย พ. ให้การว่าได้ช าระค่าก่อสร้างงวดที่ 1 ให้แก่ธนาคาร ก. ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องแล้ว ภายหลังเลิก
สัญญา ผู้คัดค้านได้ส ารวจวัสดุและทรัพย์สินในสถานที่ก่อสร้างที่ผู้เรียกร้องท าค้างอยู่อันเป็นประโยชน์และสามารถใช้งาน
ต่อไปได้ ซึ่งมีแต่ส่วนของการฐานรากอย่างเดียว คิดเป็นค่างานได้เป็นจ านวน 2,789,835.67 บาท ตามเอกสารหมาย
ค.59 คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อผู้คัดค้านมีสิทธิบอกเลิกสัญญาตามที่ได้วินิจฉัยไว้ในประเด็นที่สาม
การงานที่ผู้เรียกร้องได้ท าไปอันเป็นประโยชน์แก่ผู้คัดค้าน เมื่อสัญญาเลิกกัน ผู้คัดค้านย่อมจะต้องชดใช้ค่าของงานดังกล่าว
ให้แก่ผู้เรียกร้องด้วย ส่วนการผิดสัญญาอันเป็นเหตุให้ผู้คัดค้านได้รับความเสียหายหรือไม่ อย่างไร นั้น หากผู้คัดค้านได้รับความ
เสียหาย ผู้คัดค้านจะต้องเรียกร้องมาเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ค่างานที่ผู้เรียกร้องอ้างว่ามีจ านวน 37,105,763.61
บาท นั้นเป็นค่าวัสดุและสิ่งของอุปกรณ์ที่ผู้เรียกร้องน ามาใช้ในงานตามสัญญานี้ ซึ่งผู้เรียกร้องไม่ได้น าสืบพิสูจน์ให้เห็นว่า
เป็นประโยชน์แก่ผู้คัดค้านในส่วนใดบ้าง แต่เมื่อผู้คัดค้านรับว่างานที่ผู้เรียกร้องได้ท าไปแล้วเป็นประโยชน์และสามารถ
ใช้งานได้ของงานงวดที่ 2 คือ ในส่วนก่อสร้างฐานราก ข้อ 2.1 ของสัญญาพิพาท คิดเป็นค่างานจ านวน 2,789,835.67 บาท
คณะอนุญาโตตุลาการจึงเห็นว่าผู้คัดค้านจะต้องชดใช้เงินจ านวนนี้ให้แก่ผู้เรียกร้อง