Page 27 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 27

23



               เมษายน 2557 จริง แต่ผลงานของผู้เรียกร้องที่ 1 ก็ไม่เรียบร้อยมีความบกพร่อง และใช้ประโยชน์ไม่ได้ แม้งานจะใกล้
               เสร็จแล้ว และเป็นงานเก็บหรืองานท าความสะอาดเรียบร้อยที่ฝ่ายผู้เรียกร้องที่ 1 ไม่ได้ร้องขอให้บันทึกว่างานหลักหรือ
               งานส าคัญของโครงการส่วนใหญ่ได้ท าการไปแล้วก็ตาม ระยะเวลาที่ล่าช้าจึงต้องอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เรียกร้องที่ 1
               เป็นเวลา 171 วัน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านมีค าสั่งให้ผู้เรียกร้องที่ 1 เปลี่ยนแปลงแบบการก่อสร้างทั้ง 3 รายการ
               ตามที่ผู้เรียกร้องที่ 1 กล่าวอ้างจริง ผู้คัดค้านเพียงแต่ปฏิเสธว่าผู้เรียกร้องที่ 1 ยังไม่ได้ท าการเสร็จแล้ว ก่อนที่จะมีค าสั่งให้
               เปลี่ยนแปลง ข้อโต้แย้งดังกล่าวเห็นว่า แม้จจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อน ผู้เรียกร้องที่ 1 จะลงมือก่อสร้างแต่ละรายการ
               จริง ผู้เรียกร้องที่ 1 ก็จะต้องใช้เวลาในการจัดเตรียมวัสดุที่ต้องเพิ่มขึ้นและวางแผนการบริหารจัดการการก่อสร้างใหม่

               มิฉะนั้น จะไม่เป็นธรรมแก่ผู้เรียกร้องที่ 1 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้เรียกร้องที่ 1 ต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนแปลงแบบไป
               ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควรก าหนดเวลาที่ให้ขยายเวลาให้ในกรณีนี้เป็นระยะเวลาจ านวน 30 วัน
                              ส่วนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างที่ผู้เรียกร้องที่ 1 อ้างว่าเป็นเงิน 900,000 บาท นั้น
               ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรที่เชื่อถือได้มายืนยัน ทั้งไม่ปรากฏว่าผู้เรียกร้องที่ 1 มีค าขอในส่วนนี้
               จึงไม่พิจารณาให้
                              ตามสัญญาจ้าง ข้อ 15 ก าหนดว่าในกรณีมีการก่อสร้างล่าช้าจากสัญญา ผู้เรียกร้องที่ 1 จะต้องถูกปรับ
               วันละ 1,889 บาท (หนึ่งพันแปดร้อยแปดสิบเก้าบาทถ้วน) (ร้อยละ 0.10) เห็นว่าสัญญาจ้างมีความก ากวมไม่ชัดเจนว่า
               อาจเป็นค่าปรับ จ านวน 1,889 บาท ต่อวัน หรือ จ านวน 18,889 บาท ต่อวัน ปัญหานี้เห็นว่า สัญญาระบุถึงตัวเลข
               เป็นเงิน 1,889 บาท ตรงกับตัวหนังสือในวงเล็บชัดเจน แต่จ านวนอัตรา 18,889 บาท อาศัยเพียงค าว่า “ร้อยละ

               0.10” เท่านั้น ค่าปรับจ านวนวันละ 1,889 จึงมีความชัดเจนมากกว่า และอย่างไรก็ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและ
               พาณิชย์ มาตรา 11 บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่คู่กรณีฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูล
               หนี้นั้น” ดังนั้น ผู้เรียกร้องที่ 1 ย่อมได้รับประโยชน์จากหลักการตีความตามกฎหมายดังกล่าว จึงต้องถือว่าค่าปรับตาม
               สัญญาจ้างพิพาทเป็นค่าปรับ 1,889 บาทต่อวัน
                              ส่วนจ านวนค่าปรับมีจ านวนใดนั้น ผู้คัดค้านอ้างว่ามีความล่าช้าจากวันสิ้นสุดสัญญาจ านวน 171 วัน
               และเมื่อวินิจฉัยไปแล้วว่ามีความล่าช้าที่เกิดจากค าสั่งของผู้คัดค้านให้เปลี่ยนแปลงแบบแปลนการก่อสร้าง 30 วัน
               ระยะเวลาที่ท าการล่าช้า จึงลดจ านวนเหลือ 141 วัน เมื่อค านวณค่าปรับวันละ 1,889 บาท จึงเป็นค่าปรับจ านวนเงิน
               266,349 บาท และเมื่อน าไปหักกับค่างานงวดที่ 10 จ านวน 2,226,620 บาท ผู้คัดค้านจะต้องคืนให้แก่ผู้เรียกร้องที่ 1

               เป็นเงิน 1,960,271.00 บาท
                              ชี้ขาดให้ผู้คัดค้านช าระเงิน จ านวน 1,960,271.00 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
               โดยให้ช าระดอกเบี้ยภายหลังจากวันที่ผู้คัดค้านได้รับส าเนาค าชี้ขาดฉบับนี้ไปแล้ว 90 วันเป็นต้นไป จนกว่าจะช าระเสร็จ
               ให้แก่ผู้เรียกร้องที่ 1

               แหล่งที่มำ
                              ข้อพิพำทหมำยเลขด ำที่ 8/2558
                              หลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง   :  ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 11
                              คณะอนุญำโตตุลำกำร      :  สุชำติ สุขสุมิตร

                                                      รองศำสตรำจำรย์เกษม เพชรเกตุ
                                                      รองศำสตรำจำรย์ ดร. สุรพล สุยะพรหม
                              ผู้ย่อ                          :  ฉัตรชนก นิลทะรักษ์
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32