Page 32 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 32
28
ต้องส่งมอบให้ผู้คัดค้านที่ 1 ตามสัญญาหรือไม่ เห็นว่าแม้ตามสัญญาจ้างในข้อ 1 จะมีข้อความระบุไว้เพียง เครื่องสูบน้ า 1
เครื่อง มอเตอร์ไฟฟ้า 1 เครื่อง แต่เมื่อตรวจสอบจากใบเสนอราคาของผู้เรียกร้องซึ่งเสนอต่อประธานคณะกรรมการเปิด
ซองสอบราคาจ้างของผู้คัดค้านเห็นได้ว่าทั้ง 3 รายการ มีรายละเอียดของอุปกรณ์แต่ละรายการทั้งราคาซึ่งแตกต่างกัน
อย่างชัดเจน ผู้เรียกร้องจึงมีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องส่งมอบเครื่องสูบน้ าตามรายการที่ 1 ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าตามรายการ
ที่ 2 เป็นอุปกรณ์อีก 1 เครื่อง แยกต่างหากจากรายการที่ 1 ดังนั้น การที่ผู้เรียกร้องปฏิเสธที่จะส่งมอบมอเตอร์ไฟฟ้าตาม
รายการที่ 2 อีก 1 เครื่อง โดยอ้างว่ารวมอยู่ในมอเตอร์ที่ติดตั้งในเครื่องสูบน้ าตามรายการที่ 1 แล้ว จึงฟังไม่ขึ้น ผู้เรียกร้อง
จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ในส่วนประเด็นที่ผู้เรียกร้องยังมิได้ทดสอบเครื่องสูบน้ านั้น เห็นว่า ประเด็นดังกล่าวมิได้ท าให้ผลคดี
เปลี่ยนแปลงไป จึงไม่จ าเป็นต้องวินิจฉัย
ประเด็นข้อที่ 2 ผู้คัดค้านทั้งสองจ าต้องช าระเงินตามสัญญาและคืนเงินหลักประกันให้แก่ผู้เรียกร้อง
หรือไม่ เพียงใด และประเด็นข้อที่ 3 ผู้คัดค้านที่ 1 มีสิทธิเรียกค่าปรับหรือไม่ เพียงใด ประเด็นทั้งสองเกี่ยวพันกัน สมควร
พิจารณารวมในคราวเดียวกัน
เมื่อผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้คัดค้านที่ 1 ย่อมมีสิทธิปรับผู้เรียกร้องตามสัญญาข้อ 16 โดยปรับ
รายวันนับถัดจากวันสิ้นสุดสัญญาจนถึงวันที่บอกเลิกสัญญา ค่าปรับจ านวนคิดเป็นร้อยละ 26.9 ของจ านวนเงินตาม
สัญญาจ้างซึ่งเหมาะสมและเป็นธรรมแก่กรณีแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ผู้คัดค้านที่ 1 บอกเลิกสัญญาแก่ผู้เรียกร้องแล้ว
คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจ าต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม และในส่วนที่เป็นการงานอันได้กระท าให้และ
เป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์นั้น การที่จะชดใช้คืนให้ท าได้ด้วยใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ เมื่อพิจารณาจากการงานที่
ผู้เรียกร้องได้ส่งมอบให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 และทั้งสองฝ่ายมิได้โต้แย้งกัน ผู้เรียกร้องได้ด าเนินการส่งมอบงานตามสัญญาจ้าง
ให้แก่ผู้คัดค้านเกือบครบถ้วนตามสัญญา คงขาดเพียงประการเดียว คือ มอเตอร์ไฟฟ้า จ านวน 1 เครื่อง ราคา 124,400
บาท น าไปหักจากจ านวนเงินค่าจ้างตามสัญญา จ านวน 1,408,500 บาท คงเหลือ 1,284,100 บาท อันเป็นการงาน
อันผู้เรียกร้องได้กระท าให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 และเมื่อหักจากค่าปรับที่ผู้คัดค้านที่ 1 มีสิทธิได้รับจากผู้เรียกร้องเป็นเงิน
379,021 บาท คงเหลือเงินที่ผู้คัดค้านที่ 1 จะต้องใช้ค่าจ้างแก่ผู้เรียกร้อง จ านวน 902,079 บาท ในส่วนของผู้คัดค้าน
ที่ 2 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนต าบล ในฐานะผู้แทนผู้คัดค้านที่ 1 ตามพระราชบัญญัติสภาต าบลและ
องค์การบริหารส่วนต าบล พ.ศ. 2537 ผู้คัดค้านที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว
เหตุผลดังได้ประมวลมาแต่ต้น คณะอนุญาโตตุลาการจึงพร้อมกันวินิจฉัยให้ผู้คัดค้านที่ 1 ช าระเงิน
ค่าจ้างให้แก่ผู้เรียกร้อง จ านวน 905,079 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ถัดจากวันยื่น
ข้อพิพาทจนกว่าจะช าระเสร็จแก่ผู้เรียกร้อง
แหล่งที่มำ
ข้อพิพำทหมำยเลขด ำที่ 92/2559
หลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง : ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 379 และ 391
พระรำชบัญญัติสภำต ำบลและองค์กำรบริหำรส่วนต ำบล พ.ศ. 2537
คณะอนุญำโตตุลำกำร : นำยอัมพร เหลียงน้อย
ศำสตรำจำรย์พิเศษ สุชำติ ธรรมำพิทักษ์กุล
นำยสุริยำ สิทธิกรณ์
ผู้ย่อ : ฉัตรชนก นิลทะรักษ์