Page 33 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 33
29
13. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 76/2561
ประเด็นข้อพิพำท : 1. ผู้คัดค้ำนมีสิทธิได้รับกำรขยำยเวลำก่อสร้ำงจ ำนวน 60 วันตำมระเบียบส ำนัก
นำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยพัสดุ พ.ศ. 2535 เนื่องจำกผ ู้เรียกร้องไม่สำมำรถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้ำงให้ผู้คัดค้ำนด ำเนิน
กำรก่อสร้ำงตำมสัญญำหรือไม่
2. ผู้คัดค้ำนมีสิทธิได้รับกำรขยำยเวลำตำมระเบียบส ำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยพัสดุ
พ.ศ. 2535 จ ำนวน 67 วัน เนื่องจำกผู้เรียกร้องตรวจรับงำนล่ำช้ำกว่ำก ำหนดหรือไม่
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ำ ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้านได้เข้าท าสัญญาจ้างโดยผู้เรียกร้องตกลงจ้างและ
ผู้คัดค้านตกลงรับจ้างก่อสร้างอาคารเรียนและปฏิบัติการกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพพร้อมครุภัณฑ์ จ านวน 1 หลัง
ซึ่งผู้เรียกร้องและผู้คัดค้านได้ท าสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยแก้ไขก าหนดเวลาแล้วเสร็จตามสัญญาข้อ 7 ของสัญญาจ้าง
จากที่ก าหนดไว้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในวันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในวันที่ 8 กันยายน 2555
หลังจากครบก าหนดวันแล้วเสร็จตามสัญญาแล้ว ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือถึงผู้คัดค้านเพื่อเร่งรัดการก่อสร้างและได้แจ้งกับ
ผู้คัดค้านด้วยว่าระยะเวลาด าเนินการก่อสร้างเกินก าหนดสัญญาแล้วประมาณ 60 วัน มีค่าปรับวันละ 48,799 บาท
ภายหลังการติดตามด าเนินงานของผู้คัดค้านประมาณ 3 สัปดาห์ พร้อมประเมินค่าปรับจากการผิดสัญญาก่อสร้างแล้วเห็น
ว่าผู้คัดค้านมิได้ด าเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่เสนอมา และถ้าด าเนินการต่อไปในลักษณะดังกล่าวจะไม่สามารถ
ด าเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2556 อย่างแน่นอน ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญากับผู้คัดค้าน
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ประเด็นข้อที่ 1 ผู้คัดค้านเรียกร้องแย้งว่าภายหลังการลงนามในสัญญาก่อสร้างแล้ว ผู้เรียกร้องไม่
สามารถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ผู้คัดค้านด าเนินการก่อสร้างได้ เพราะอาคารที่จะก่อสร้างอยู่ในแนวสายไฟฟ้าพาดผ่าน
มีความจ าเป็นต้องย้ายต าแหน่งการก่อสร้างผู้คัดค้านจึงได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีกเป็นระยะเวลา
60 วัน เหตุดังกล่าวเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของส่วนราชการตามระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ
พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 139 (1) ผู้คัดค้านจึงไม่จ าเป็นต้องแจ้งเหตุให้ทราบภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่
เหตุนั้นได้สิ้นสุดลง การที่ผู้เรียกร้องไม่ขยายระยะวลาดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบส านัก
นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 คณะอนุญาโตตุลาการพบว่า สัญญาข้อ 22 ได้ก าหนดเหตุที่ผู้รับจ้างจะขอ
ขยายระยะเวลาการด าเนินการก่อสร้างได้ โดยต้องแจ้งเหตุดังกล่าวแก่ผู้ว่าจ้างภายใน 15 วันนับถัดจากวันที่เหตุการณ์
สิ้นสุดลง และได้ก าหนดข้อยกเว้นส าหรับกรณีที่ไม่ต้องแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นภายในก าหนดเวลา 15 วัน คือเป็นเหตุที่เกิดจาก
ความผิดหรือความบกพร่องของผู้ว่าจ้าง หรือผู้ว่าจ้างได้ทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ซึ่งกรณีนี้แม้จะฟังได้ว่าเป็นเรื่องที่มี
หลักฐานชัดแจ้งหรือผู้ว่าจ้างทราบดีอยู่แล้ว ก็เป็นเพียงข้อยกเว้นให้ผู้คัดค้านมิต้องแจ้งเหตุที่จะขอขยายระยะเวลาตาม
ความในสัญญาข้อ 22 นี้เท่านั้น แต่ตามสัญญาข้อ 22 วรรค 2 ได้ระบุว่า การขยายก าหนดระยะเวลาท างานตามวรรค
หนึ่งอยู่ในดุลพินิจของผู้ว่าจ้างที่จะพิจารณาตามที่สมควร ผู้คัดค้านมิได้น าสืบให้คณะอนุญาโตตุลาการเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้น
นั้นมีผลกระทบต่อการท างานของผู้คัดค้านอันมีความจ าเป็นต้องขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปหรือไม่ อย่างไร
เป็นเวลากี่วัน และการที่ผู้เรียกร้องใช้ดุลพินิจไม่ขยายระยะเวลาให้แก่ผู้คัดค้าน ในกรณีนี้เป็นการกระท าผิดระเบียนส านัก
นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างไรบ้าง ดังนั้นคณะอนุญาโตตุลาการจึงเห็นว่า
ผู้คัดค้านไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามข้อกล่าวอ้างของตนในประเด็นนี้ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้เรียกร้องขยาย