Page 36 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 36
32
ทั้งสี่รายดังกล่าวได้ยื่นหนังสือต่อผู้เรียกร้องเพื่อขอลาออกจากงาน โดยมีผลวันที่ 7 มีนาคม 2559 ผู้เรียกร้องได้ปฏิบัติงาน
ที่รับจ้างบริการกับผู้คัดค้านจนครบก าหนดตามสัญญาและไม่มีการต่อสัญญาว่าจ้างบริการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด
ผู้เรียกร้องยุติการปฏิบัติงานและถอนก าลังพนักงานรักษาความปลอดภัยออกจากสถานที่ของผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 2
พฤษภาคม 2559 ผู้เรียกร้องได้ตรวจสอบพบว่าลูกจ้างของผู้เรียกร้องทั้งสี่รายดังกล่าวยังท างานอยู่กับผู้คัดค้าน
ตามทางน าสืบของฝ่ายผู้คัดค้านได้ความว่า ผู้คัดค้านได้ตกลงว่าจ้างผู้เรียกร้องให้ด าเนินการ
ด้านรักษาความปลอดภัย เมื่อสัญญาว่าจ้างระหว่างผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้านสิ้นสุดแล้ว ผู้คัดค้านไม่ต่อสัญญาจ้างให้กับ
ผู้เรียกร้องและผู้คัดค้านได้ตกลงว่าจ้างบริษัท ด. ให้ด าเนินการด้านรักษาความปลอดภัย ตามสัญญาจ้างก าหนดให้บริษัท ด.
เป็นผู้จัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัยมาปฏิบัติหน้าที่ที่สถานที่ของผู้คัดค้าน และผู้คัดค้านช าระค่าจ้างให้กับบริษัท ด.
โดยตรง ต่อมาบุคคลทั้งสี่ดังกล่าวได้สมัครงานกับบริษัท ด. บริษัท ด. จึงได้จัดส่งบุคคลทั้งสี่ดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่
พนักงานรักษาความปลอดภัยประจ าสถานที่ของผู้คัดค้าน โดยได้รับเงินเดือนจากบริษัท ด.
อนุญาโตตุลาการเห็นว่า ข้อตกลงตามสัญญาจ้างพิพาท เป็นข้อตกลงที่ห้ามผู้คัดค้านตกลงหรือท าการ
ว่าจ้างลูกจ้างของผู้เรียกร้องที่ได้ลาออกจากงานไปไม่เกินหกเดือน ตามข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านได้ท าสัญญาว่าจ้าง
บริษัท ด. ให้เป็นผู้ด าเนินการดูแลด้านความปลอดภัย เมื่อบุคคลทั้งสี่ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานลูกจ้างของผู้เรียกร้อง
ในเวลาต่อมาได้สมัครงานกับบริษัท ด. บริษัท ด. ย่อมมีสิทธิส่งพนักงานลูกจ้างของตนไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานรักษาความ
ปลอดภัยให้กับผู้คัดค้านตามสัญญาจ้าง และข้อตกลงระหว่างผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้าน ไม่มีผลผูกพันบริษัท ด. แต่อย่างใด
ดังนั้น การที่บุคคลทั้งสี่รายเข้าท าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้คัดค้านหลังจากสัญญาจ้างพิพาทสิ้นสุดลง โดยที่บริษัท
ด. ผู้รับจ้างรายใหม่ เป็นผู้จัดส่งให้มาปฏิบัติหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัยตามสัญญาจ้าง มิได้เกิดจากการที่ผู้คัดค้านได้
ตกลงหรือว่าจ้างบุคคลทั้งสี่ให้เข้าท างานกับผู้คัดค้านแต่อย่างใด ผู้คัดค้านจึงมิใช่ผู้ปฏิบัติผิดสัญญาพิพาท ผู้คัดค้านจึง
ไม่ต้องรับผิดช าระค่าปรับตามข้อเรียกร้อง
ประเด็นวินิจฉัย ผู้เรียกร้องยื่นค าเสนอข้อพิพาทเป็นการละเมิดต่อผู้คัดค้านหรือไม่ และผู้เรียกร้องต้อง
รับผิดช าระค่าเสียหายหรือไม่ เพียงใด
อนุญาโตตุลาการรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า ผู้เรียกร้องตรวจสอบพบว่ามีอดีตลูกจ้างต าแหน่งพนักงาน
รักษาความปลอดภัยของผู้เรียกร้องที่ยื่นหนังสือขอลาออกไปแล้วจ านวน 4 คน ยังคงไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานรักษาความ
ปลอดภัยให้กับผู้เรียกร้องต่อเนื่องหลังจากที่สัญญาจ้างรักษาความปลอดภัยระหว่างผู้เรียกร้องกับผู้คัดค้านสิ้นสุดลง
ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือแจ้งผู้คัดค้านทราบแล้ว แต่ผู้คัดค้านไม่ได้แจ้งตอบแต่อย่างใด ผู้เรียกร้องจึงยื่นค าร้องขอประนอมข้อ
พิพาทต่อ THAC (Thailand Arbitration Center) เพื่อขอประนอมข้อพิพาทตามสัญญา ผู้คัดค้านมิได้เข้าร่วมเจรจา
ประนอมข้อพิพาทเช่นกัน อนุญาโตตุลาการเห็นว่า การที่ผู้เรียกร้องใช้สิทธิยื่นค าเสนอข้อพิพาทเรื่องนี้จึงเป็นการใช้สิทธิ
ตามล าดับตามขั้นตอนแห่งสัญญาพิพาทและเป็นการใช้สิทธิตามข้อสัญญาโดยสุจริต การยื่นค าเสนอข้อพิพาทเรื่องนี้จึงไม่เป็น
การละเมิดต่อผู้คัดค้าน (เทียบเคียงตามนัยค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 2994/2558) ผู้เรียกร้องจึงไม่ต้องรับผิดตามข้อเรียกร้องแย้ง
อาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายข้างต้น อนุญาโตตุลาการจึงมีค าชี้ขาดให้ยกค าเสนอข้อพิพาทเสีย
ทั้งสิ้น และให้ยกข้อเรียกร้องแย้งเสียทั้งสิ้น
แหล่งที่มำ
ข้อพิพำทหมำยเลขด ำที่ 51/2560
หลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง : ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
อนุญำโตตุลำกำร : ดร.กฤษฎำ ดิษบรรจง
ผู้ย่อ : อริศรำ ศันสนีย์วิทยกุล