Page 83 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 83
79
ค ำชี้ขำดเกี่ยวกับสัญญำอื่น ๆ
32. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 9/2561
ประเด็นข้อพิพำท : ๑. คู่สัญญาฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญา
๒. การบอกเลิกสัญญาของผู้คัดค้านชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
๓. ผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้คัดค้านช าระค่าสินไหมทดแทนแทนการบอกเลิกสัญญาหรือไม่
ค าวินิจฉัยชี้ขาด
คณะอนุญาโตตุลาการพิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากข้อเรียกร้อง ค้าคัดค้าน และข้อเรียกร้องแย้งรวมถึง
ค้าพยานของคู่พิพาทในประเด็นนี้แล้ว เห็นว่าการบอกเลิกสัญญาตามความในข้อ ๑๓.๑ เป็นกรณีที่คู่พิพาทตกลงกันไว้เป็น
เรื่อง ๆ ไปเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ส่วนประเด็นเรื่องเลิกสัญญาได้ตามกฎหมายหรือไม่นั้นคู่สัญญาตกลงกันให้ใช้กฎหมายไทย
บังคับกับสัญญาฉบับนี้กรณีจึงต้องน้าบทบัญญัติของมาตรา ๓๘๘ ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับ
การเลิกสัญญามาปรับใช้ว่าตามข้อเท็จจริงในข้อพิพาทนี้ ผู้คัดค้านมีสิทธิเลิกสัญญาหรือไม่ตามกฎหมายในประเด็นนี้
ผู้เรียกร้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียงทั่วโลก มีความช้านาญและมาตรฐานในการบริหารงานโรงแรมใน
เครือของบริษัทของผู้เรียกร้องอยู่ทั่วโลก การที่ไม่จัดส่งแผนปฏิบัติการรายปี (Annual Operation Plan: AOP) ของปี
๒๐๑๖ (พ.ศ. ๒๕๕๙) ให้แก่ผู้คัดค้านทั้งปีตามก้าหนดเวลา และที่น้าพยานเบิกความ ว่าเป็นการส่งแผนงานเพียง ๓ เดือน
แรกของปี คือเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ จัดส่งมาเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ส้าหรับ
ผู้เรียกร้องซึ่งมีความเป็นมืออาชีพ และที่ผู้เรียกร้องเบิกความอ้างว่าส่งแผนงานฉบับทั้งปีไปเมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๑๕๕๙
นั้นเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการส่งที่ล่าช้า ตามที่ก้าหนดในสัญญาการจัดการ ข้อ ๖.๑ เรื่องแผนปฏิบัติการรายปี ที่ระบุว่า
“ ผู้จัดการจะส่งมอบแผนปฏิบัติการรายปีภายในเวลา ๖๐ วัน (หกสิบวัน) ก่อนเริ่มปีงบประมาณใหม่ให้เจ้าของพิจารณา…” ซึ่งตามที่
ก้าหนดควรจะเสนอแผนปฏิบัติการรายปี ๒๕๕๙ ก่อนเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ อีกทั้งผู้คัดค้านก็ได้เบิกความว่าไม่ได้รับแผน
ปฏิบัติการรายปีทั้งปีจากผู้เรียกร้องแต่อย่างใด ส่วนที่ผู้เรียกร้องได้น้าส่งแผนปฏิบัติการรายปี ๒๕๕๙ นั้นก็เป็นของช่วง
ระยะเวลา ๓ เดือนแรกของปี ๒๕๕๙ เท่านั้น และเมื่อพิเคราะห์ดูจากเอกสารที่น้าส่งแล้วก็แตกต่างจากแผนปฏิบัติการ
ฉบับปี ๒๕๕๘ ที่ผู้เรียกร้องน้าส่งให้กับผู้คัดค้าน ส้าหรับการบริหารงานช่วงหกเดือนของปี ๒๕๕๘ จึงไม่ใช่แผนปฏิบัติการ
ที่สมบูรณ์พอที่จะถือได้ว่าผู้เรียกร้องได้ปฏิบัติครบเงื่อนไขส้าคัญที่จะรับเงินค่าจ้างหรือค่าธรรมเนียมของปี ๒๕๕๙
จากผู้คัดค้านได้ ซึ่งแผนการปฏิบัติการรายปี ๒๕๕๙ (๒๐๑๖) ที่ผู้เรียกร้องต้องจัดท้าขึ้นตามสัญญาที่ผู้เรียกร้องใช้เป็น
มาตรฐานในการบริหารกิจการโรงแรมมากมายทั่วโลกนั้น คณะอนุญาโตตุลาการเห็นว่าเป็นเงื่อนไขส้าคัญที่ผู้รับบริการ
หรือผู้คัดค้านต้องได้รับก่อนและอนุมัติแล้ว อันจะเป็นผลให้ผู้เรียกร้อง หรือผู้จัดการจะสามารถเรียกและรับเงิน หรือ
ค่าธรรมเนียมตามที่เรียกกันเป็นรายเดือนได้ เพราะทางผู้คัดค้านเองก็จะมีคู่มือ คือแผนปฏิบัติการรายปีไว้ใช้ตรวจสอบการ
ท้างานของผู้เรียกร้องการที่ขาดแผนปฏิบัติการดังกล่าวจึงเป็นผลให้การตรวจสอบการท้างานในช่วง ๓ เดือนแรกของปี