Page 82 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 82
78
และในต้นเงินจ านวน 217,731.85 บาท นับแต่วันยื่นค าเสนอข้อพิพาทเป็นต้นไปจนกว่าผู้คัดค้านจะช าระให้แก่
ผู้เรียกร้องเสร็จสิ้น
ในประเด็นค่าเสียหาย อนุญาโตตุลาการได้พิจารณาเอกสารการแจ้งประเมินภาษีโรงเรือนของเทศบาลฯ
ที่ประเมินจากค่าเช่าของโรงเรือนว่าพึงให้เช่าได้เท่าใด ของฝ่ายผู้คัดค้านแล้วเห็นว่า ค่าตอบแทนที่ได้รับหรือพึงได้รับ
ภายหลังการบอกเลิกสัญญาเช่าแล้วนั้น อยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน หรือ 240,000 บาทต่อปี ซึ่งแม้จะต่ ากว่า
ราคาค่าเช่าที่คู่พิพาทได้ตกลงกันได้แต่เดิม แต่เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจและการที่คู่สัญญาอื่น ๆ ต่างได้ตกลงยอม
ขายบ้านคืนให้แก่ผู้คัดค้าน กรณีจึงน่าเชื่อว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงกว่าเดิม น่าจะเป็นเหตุให้ผู้คัดค้านผิดนัดเพราะ
ได้รับรายได้ไม่เพียงพอช าระค่าเช่าให้แก่ผู้เรียกร้อง ส่วนผู้เรียกร้องเบิกความลอย ๆ ว่าค่าเสียหายควรได้รับเท่ากับค่าเช่า
ตามสัญญาโดยมิได้มีพยานหลักฐานใดสนับสนุน อนุญาโตตุลาการจึงเห็นว่า ประมาณการรายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน
เดือนละ 20,000 บาทภายหลังที่สัญญาสิ้นสุดแล้วตามที่ผู้คัดค้านน าสืบประกอบมีความสมเหตุสมผลและมีน้ าหนัก
มากกว่าข้ออ้างของผู้เรียกร้อง จึงวินิจฉัยให้ผู้เรียกร้องมีสิทธิได้รับช าระค่าเสียหายภายหลังการเลิกสัญญาเช่าจากผู้คัดค้าน
เป็นเงินเดือนละ 20,000 บาท นับแต่วันที่ 20 กันยายน 2554 อันเป็นวันถัดจากวันที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลงเนื่องจากการ
บอกเลิกสัญญาจนถึงวันที่ผู้คัดค้านได้ส่งมอบบ้านพิพาทคืนแก่ผู้เรียกร้อง พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่
วันยื่นค าเสนอข้อพิพาทเป็นต้นไปจนกว่าผู้คัดค้านจะช าระให้แก่ผู้เรียกร้องเสร็จสิ้น
แหล่งที่มำ
ข้อพิพำทหมำยเลขด ำที่ 29/2559
หลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง : ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 7, 224, 538
คณะอนุญำโตตุลำกำร : ศำสตรำจำรย์พิเศษสุชำติ ธรรมำพิทักษ์กุล
ผู้ย่อ : อริศรำ ศันสนีย์วิทยกุล