Page 146 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 146
ี
�
ี
แต่จาเลยท่ 2 และท่ 3 อาจเป็นหน่วยงานทางปกครองและอาจถูกฟ้อง
�
ต่อศาลปกครองได้ หากได้กระทาการใดโดยใช้อานาจทางปกครองหรือ
�
�
�
ึ
ดาเนินกิจการทางปกครองตามท่ได้รับมอบหมาย ซ่งได้แก่การดาเนินการ
ี
เก่ยวกับการจัดการศึกษา การวัดและประเมินผล ซ่งเป็นเง่อนไขของการ
ี
ื
ึ
สาเร็จการศึกษา อันเป็นการจัดทาบริการสาธารณะท่ได้รับมอบหมาย
�
ี
�
�
จากรัฐ นอกเหนือจากน้แล้ว การดาเนินการของโรงเรียนเอกชนย่อม
ี
่
ี
ู
ิ
ื
ิ
ี
เป็นเรองของนตบุคคลเอกชนท่อย่ภายใต้ระบบกฎหมายเอกชนเช่นเดยว
ื
ั
�
กับเอกชนท่วไป เม่อโจทก์อ้างว่าจาเลยท้งสามไม่ข้นเงินบานาญในอัตรา
ั
�
ึ
ร้อยละ 10 ของเงินบานาญท่ได้ในเดือนพฤษภาคม ให้แก่โจทก์ และ
�
ี
ไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย อันเป็นข้อตกลงเก่ยวกับสภาพการจ้าง
ี
ั
�
�
นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจาเลยท้งสามในการจัดทาสัญญาว่าจ้างโจทก์
เป็นลูกจ้างในตาแหน่งครู เพ่อทางานให้กับจาเลยท่ 2 และท่ 3 มิได้
ื
ี
�
ี
�
�
�
�
เกิดจากการใช้อานาจทางปกครองหรือดาเนินกิจการทางปกครองตาม
ี
ี
ี
�
ท่ได้รับมอบหมายจากรัฐ การกระทาของจาเลยท่ 2 และท่ 3 ในการทา �
�
ี
่
ั
ั
ึ
�
ั
ี
สญญาดงกล่าว จงไม่ทาให้ตนมฐานะเป็นหน่วยงานทได้รบมอบหมาย
�
ให้ใช้อานาจทางปกครองหรือดาเนินกิจการทางปกครอง อันจะถือว่า
�
เป็นหน่วยงานทางปกครอง สัญญาจ้างครูผู้สอนในคดีน้ จึงไม่ครบ
ี
องค์ประกอบของสัญญาทางปกครอง ตามบทนิยามมาตรา 3 แห่งพระราช
ั
บัญญัติจัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ข้อ
ี
พิพาทในคดีน้จึงมิใช่คดีพิพาทเก่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 9
ี
ั
ึ
วรรคหน่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติจัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา
คดีปกครอง พ.ศ. 2542 ท่จะอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ
ี
�
ี
ี
�
ศาลปกครอง แต่เป็นนิติสัมพันธ์ท่โจทก์ตกลงจะทางานให้จาเลยท่ 2 และ
�
�
�
ี
ี
ท่ 3 และจาเลยท่ 2 และท่ 3 ตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาท่ทางานให้
ี
ี
135