Page 187 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 187

�
               ี
                                          ื
                   �
            หน้ตามคาพิพากษาของศาลฎีกาได้ เม่อปรากฏว่ายังไม่มีการทาสัญญา
                      ื
                                                   ื
            ผ่อนผัน เพ่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและเพ่อให้การปฏิบัติตาม
            ค�าพิพากษาของทั้งสองศาลเป็นไปได้ จึงเห็นสมควรให้ผู้ร้องบังคับคดีตาม
             �
                                                   �
            คาพิพากษาของศาลฎีกาก่อน ต่อเม่อได้มีการทาสัญญาผ่อนผันตาม
                                         ื
             �
                                                      �
                                                           ี
            คาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จึงให้นับระยะเวลาท่จาเลยท่ 1 ขอกลับ
                                                     ี
            เข้ารับราชการเป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุน โดยให้ค�านวณระยะ
                                                               ี
                                                     �
                           �
            เวลาดังกล่าวเป็นจานวนเงินตามสัญญาผ่อนผันแล้วนาไปหักกับหน้ตาม
            คาพิพากษาของศาลฎีกาและบังคับคดีในหน้ตามคาพิพากษาของศาล
             �
                                                    �
                                               ี
                                       �
                    ี
                                   ื
            ฎีกาส่วนท่เหลือต่อไป และเม่อได้กาหนดแนวทางปฏิบัติให้ผู้ร้องบังคับ
                   �
            คดีตามคาพิพากษาของศาลฎีกาก่อนดังกล่าวแล้ว ปัญหาว่าผู้ร้องจะต้อง
                        ั
                              �
                                 ิ
                ั
                                                               ่
                                                    ู
            ทาสญญาผ่อนผนตาม คาพพากษาของศาลปกครองสงสดอย่างไร ซงเป็น
                                                      ุ
                                                               ึ
              �
              ื
            เร่องในช้นบังคับคดีของศาลปกครอง จึงไม่จาต้องวินิจฉัย
                                              �
                   ั
                               ี
                                             ี
                                   �
                                                         ี
                      �
                     คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๖๔/๒๕๕๙
                ี
                        �
            คดีท่เทศบาลตาบลหนองสอ ผู้ร้อง ย่นคาร้องขอให้วินิจฉัยช้ขาดกรณ ี
                                            �
                                          ื
                                                            ี
             �
            คาพิพากษาท่ถึงท่สุดระหว่างศาลยุติธรรมและศาลปกครองขัดแย้ง
                       ี
                           ี
                            �
            กันว่าผู้ร้องจะต้องชาระเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างสร้างและติดต้งซุ้ม
                                                               ั
                                                         �
                                                        ี
            เฉลิมพระเกียรติให้แก่เอกชนผู้รับจ้างตามจานวนท่กาหนดไว้ใน
                                                  �
                                           �
                                              ิ
                ิ
                                                              �
             �
                                         ื
                                                            ึ
            คาพพากษาศาลปกครองขอนแก่นหรอคาพพากษาศาลฎีกา ซ่งกาหนด
             �
                            ี
            จานวนเงินค่าจ้างท่ผู้ร้องต้องรับผิดไว้แตกต่างกัน เห็นว่า การจะ
                                      �
            พิจารณาว่าผู้ร้องต้องปฏิบัติตามคาพิพากษาของศาลใดตามมาตรา 14
            แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
                                                         ี
                                                �
                                           ี
                        ั
                                                         ั
                           �
                                                           ้
                                                           ั
                                 ิ
                                        ึ
                        ้
            พ.ศ. 2542 นน จาต้องพจารณาถงเจตนารมณ์ของการจดตงศาลเป็น
                       ึ
            ระบบศาลคู่ซ่งได้แก่ ความมุ่งหมายให้ประชาชนได้รับการพิจารณา
                              ี
            พิพากษาคดีจากศาลท่มีความเช่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างรวดเร็วและ
                                      ี
       176  สรุปแนว   ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
                         ี
                                                      ั
                   และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
                   ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
                   (พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)
   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192