Page 182 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 182
�
้
ในขณะรับราชการใช้ทุนยังไม่ครบ โดยผู้ร้องและผู้คาประกันได้ปฏิบัติการ
�
ี
�
ชาระหน้ตามคาพิพากษาไปแล้วบางส่วน จึงไม่อาจบังคับคดีต่อไปได้ จึง
ั
ื
สมควรให้สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นพ้นฐานปฏิบัติตาม
�
�
คาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยมิให้บังคับคดีตามคาพิพากษาของ
�
ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี และให้คืนเงินท่ได้รับชาระท้งหมดให้แก่ผู้ร้อง
�
ั
ี
้
�
และผู้คาประกันต่อไป
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๑๙/๒๕๕๒
ี
�
ี
ี
ี
่
ึ
ุ
ี
่
ิ
ิ
ี
�
้
ิ
ั
ี
ี
ู
่
ี
คดทผ้ร้องขอให้วนจฉยชขาดกรณคาพพากษาทถงทสดระหว่างศาล
ขัดแย้งกัน โดยมูลความแห่งคดีสืบเน่องมาจากสัญญารับทุน ไปฝึกอบรม
ื
ณ ประเทศนอร์เวย์ซ่งจ�าเลยที่ 1 ทาไว้กับผู้ร้อง ศาลยุติธรรมพิพากษา
�
ึ
ให้จาเลยท่ 1 ชดใช้ทุนให้แก่ผู้ร้อง ส่วนศาลปกครองพิพากษาให้ผู้ร้อง
�
ี
�
ทาสัญญาผ่อนผันให้นับระยะเวลาท่จาเลยท่ 1 ขอกลับเข้ารับราชการ
�
ี
ี
เป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามสัญญารับทุนไปฝึกอบรม
�
ั
คาพิพากษาของท้งสองศาลเป็นเหตุให้คู่ความไม่อาจบังคับหรือปฏิบัติการ
�
ื
ี
ี
ี
ชาระหน้ได้ถูกต้อง จึงเป็นคดีท่มีข้อเท็จจริงเป็นเร่องเดียวกันท่ถึงท่สุด
ี
ื
แล้วและขัดแย้งกันตามมาตรา 14 แม้ว่าผู้ร้องจะย่นคาร้องเม่อพ้น
�
ื
�
ี
ึ
หกสิบวันนับแต่วันท่มีคาพิพากษาของศาลปกครองซ่งพิพากษาภายหลัง
�
ี
ถึงท่สุด แต่กาหนดเวลาดังกล่าวหาใช่อายุความท่จะต้องฟ้องคดีภายใน
ี
ื
กาหนด เม่อคู่ความยังไม่ได้รับการเยียวยา เพ่อประโยชน์แห่งความ
ื
�
ยุติธรรม คณะกรรมการจึงรับคาร้องตามข้อบังคับคณะกรรมการข้อ 4
�
ี
�
ื
เม่อคดีท่จาเลยท่ 1 ฟ้องผู้ร้องต่อศาลปกครองน้น ศาลปกครองสูงสุด
ั
ี
ี
พิพากษาให้จาเลยท่ 1 ชนะคดี ให้นับระยะเวลาท่ขอกลับเข้ารับราชการ
ี
�
เป็นระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุน การปฏิบัติตามคาพิพากษาดังกล่าว
�
ั
ั
่
ี
�
่
ี
ี
�
่
ู
ต่างเป็นหน้าทของจาเลยท 1 และผ้ร้องทจะต้องทาสญญาผ่อนผน
171