Page 178 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 178

ิ
                                                         ั
                                                      ั
                                                                       ั
                  ศาลขัดแย้งกันตามมาตรา 14 แห่งพระราชบญญติว่าด้วยการวินจฉย
                   ้
                                 ่
                        �
                                 ี
                  ชขาดอานาจหน้าทระหว่างศาล พ.ศ. 2542 ได้นนจะต้องปรากฏว่า
                   ี
                                                          ้
                                                          ั
                                                                ื
                            ี
                               ี
                                            ั
                   �
                  คาพิพากษาท่ถึงท่สุดระหว่างศาลน้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในเร่องเดียวกัน
                   ั
                                                    ี
                                                             �
                                  ื
                                    �
                  น้นขัดแย้งกัน การย่นคาร้องขอให้วินิจฉัยช้ขาดกรณีคาพิพากษาศาล
                          �
                  ฎีกาและคาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดขัดแย้งกันของผู้ร้อง แม้คดีตาม
                  คาพิพากษาท้งสองฉบับดังกล่าวจะมีปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
                             ั
                   �
                        ั
                                             ี
                                                                       ิ
                                                   �
                  ท่ศาลท้งสองต้องพิจารณาวินิจฉัยเก่ยวกับคาส่งของเจ้าพนักงานท้องถ่น
                   ี
                                                     ั
                                                                 ี
                                                            ็
                                                               ิ
                                    ั
                                                                 ่
                                               ั
                                                      ื
                       ้
                   ่
                   ี
                       ื
                  ทให้รอถอนอาคารในลกษณะเดยวกน แต่เมอข้อเทจจรงทปรากฏม    ี
                                            ี
                                                      ่
                                               ั
                                                            ี
                                       ั
                  ความแตกต่างกน แม้จะอาศยบทบญญตของกฎหมายเดยวกน ผลของคด  ี
                                            ั
                                                ิ
                                                               ั
                              ั
                                                       �
                                            ี
                  จึงแตกต่างกันไปตามข้อเท็จจริงท่ต่างกัน และคาพิพากษาของศาลฎีกา
                  และศาลปกครองสูงสุดต่างก็เป็นการวินิจฉัยถึงค�าส่งของเจ้าพนักงาน
                                                          ั
                       ิ
                                   ึ
                                                �
                  ท้องถ่นคนละฉบับซ่งบังคับให้กระทาต่ออาคารคนละอาคารและ
                  เจ้าของอาคารเป็นบุคคลคนละคนกัน และวินิจฉัยถึงการดัดแปลงต่อเติม
                             ึ
                         ี
                  อาคารท่เกิดข้นในช่วงเวลาแตกต่างกัน แม้เจ้าพนักงานผู้ต้องปฏิบัต  ิ
                                                        ี
                                                        ่
                  ตามผลคาพพากษาจะเป็นคนเดยวกันและอาคารทเกยวข้องจะอยู่ติดกัน
                           ิ
                         �
                                                          ่
                                          ี
                                                          ี
                   ็
                                                                      ี
                                                       ั
                                                                        ึ
                                                                      ่
                                                        ิ
                                                      ิ
                  กตาม กรณย่อมไม่อาจมข้อขดข้องในการปฏบตตามคาพพากษาทถง
                                      ี
                                         ั
                                                             �
                           ี
                                                               ิ
                                                                   ั
                          ั
                                             ื
                  ท่สุดของท้งสองศาล ประกอบกับเม่อพิจารณาคาร้องของผู้ร้องท้งสองม  ี
                                                      �
                   ี
                  ลักษณะเป็นการโต้แย้งการใช้ดุลพินิจในการรับฟังข้อเท็จจริงของศาล
                                       �
                  ปกครองสูงสุด ซ่งไม่อยู่ในอานาจของคณะกรรมการ ตามพระราชบัญญัต  ิ
                              ึ
                                  ี
                  ว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล พ.ศ. 2542 ดังน  ี ้
                                                ี
                                      �
                                              ี
                             ี
                   �
                                                ี
                  คาพิพากษาท่ถึงท่สุดระหว่างศาลท่เก่ยวข้องตามคาร้องของผู้ร้องจึง
                                ี
                                                          �
                  มิได้ขัดแย้งกัน คาร้องของผู้ร้องจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 14 วรรคหน่ง
                                                                        ึ
                               �
                  แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
                                                 ี
                                                      �
                                                               ี
                  พ.ศ. 2542 อาศัยอานาจตามข้อ 28 แห่งข้อบังคับคณะกรรมการ
                                   �
                                                                          167
   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183