Page 183 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 183

ี
            ต่อกันเสียก่อน จึงจะมีผลให้ถือว่าระยะเวลาท่ขอกลับเข้ารับราชการ เป็น
                                                      ี
                                            �
                                                           �
            ระยะเวลาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนอันจะนาไปหักกับหน้ตามคาพิพากษา
                    ี
                                            �
                                        ี
                          ่
                                    ั
                                              ั
                                                       ั
                                                          ่
            ของศาลฎกาได้ เมอปรากฏว่ายงไม่มการทาสญญาผ่อนผน เพอประโยชน์
                                                          ื
                          ื
                                                              ั
                                                 �
                                 ื
            แห่งความยุติธรรมและเพ่อให้การปฏิบัติตามคาพิพากษาของท้งสอง
            ศาลเป็นไปได้ จึงเห็นสมควรให้ผู้ร้องบังคับคดีตามคาพิพากษาของศาล
                                                    �
                         ื
                                  �
            ฎีกาก่อน ต่อเม่อได้มีการทาสัญญาผ่อนผันตามคาพิพากษาของศาล
                                                    �
            ปกครองสูงสุด จึงให้นับระยะเวลาที่จ�าเลยที่ 1 ขอกลับเข้ารับราชการเป็น
            ระยะเวลาปฏบตราชการชดใช้ทน โดยให้คานวณระยะเวลาดังกล่าวเป็น
                         ิ
                                     ุ
                       ิ
                                             �
                        ั
                                        �
            จานวนเงินตามสัญญาผ่อนผันแล้วนาไปหักกับหน้ตามคาพิพากษาของ
                                                   ี
             �
                                                       �
                                                              ี
                                  ี
                                       �
            ศาลฎีกาและบังคับคดีในหน้ตามคาพิพากษาของศาลฎีกาส่วนท่เหลือ
                                                   ั
                                                 ั
                                          ิ
                                         ั
                                             ้
                                            ้
                                              ้
            ตอไป และเมอไดกาหนดแนวทางปฏบตใหผรองบงคบคดตามคาพพากษา
                                             ู
                                       ิ
                      ่
                         ้
             ่
                                                       ี
                      ื
                                                           �
                                                             ิ
                          �
                                                       �
            ของศาลฎีกาก่อนดังกล่าวแล้ว ปัญหาว่าผู้ร้องจะต้องทาสัญญาผ่อนผัน
            ตามคาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดอย่างไร ซ่งเป็นเร่องในช้นบังคับคด  ี
                 �
                                                      ื
                                                           ั
                                                ึ
            ของศาลปกครอง จึงไม่จ�าต้องวินิจฉัย
                                                          ี
                                    �
                               ี
                      �
                                              ี
                     คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๒/๒๕๕๗
                                                   ี
                                 ื
                                   �
                ี
                                                         �
            คดีท่กรมส่งเสริมสหกรณ์ย่นคาร้องขอให้วินิจฉัยช้ขาดว่าคาพิพากษาท ี ่
                                                     ี
                                                         ื
                ี
                                      ึ
            ถึงท่สุดระหว่างศาลขัดแย้งกัน ซ่งมูลความแห่งคดีน้สืบเน่องจากการท ี ่
            จาเลยซ่งเป็นเจ้าหน้าท่ของรัฐกระทาละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ และ
                              ี
             �
                                        �
                   ึ
            หน่วยงานของรัฐมีคาส่งให้จาเลยชดใช้เงินตามพระราชบัญญัติความ
                            �
                                   �
                               ั
            รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ พ.ศ. 2539 ต่อมา ศาลปกครองสูงสุด
                                    ี
            มีคาพิพากษาให้จาเลยชดใช้เงินจานวน 8,987.44 บาท และศาลฎีกา
                                      �
               �
                          �
               �
                                      �
                                                           �
            มีคาพิพากษาให้จาเลยชดใช้เงินจานวน 16,113 บาท โดยคาพิพากษา
                          �
            ของทั้งสองศาลต่างถึงที่สุด ดังนี้แม้ว่าโจทก์จะยื่นค�าร้องให้คณะกรรมการ
                          �
            วินิจฉัยเม่อพ้นกาหนด 60 วัน นับแต่วันท่มีคาพิพากษาของศาล
                                                   �
                                                ี
                    ื
       172  สรุปแนว   ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
                         ี
                                                      ั
                   และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
                   ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
                   (พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)
   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188