Page 92 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 92
ิ
ึ
�
ี
หน่วยงานทางปกครองท่ชัดเจนย่งข้นว่า สัญญาจ้างทาของท่เป็นการ
ี
�
�
กระทาโดยมุ่งประสงค์ให้เอกชนเข้าดาเนินการจัดการงานทางธุรการ
ื
เพ่อความสะดวกในการปฏิบัติงานทางธุรการของหน่วยงานทาง
ปกครองน้นเอง ไม่มีลักษณะเป็นการดาเนินบริการสาธารณะโดยตรง
�
ั
สัญญาดังกล่าวถือเป็นสัญญาทางแพ่ง ยกตัวอย่างเช่น
�
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๔๑/๒๕๕๘
ี
ี
ี
�
คดีท่เอกชนฟ้องขอให้บังคับจาเลยซ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท
ี
ึ
�
มหาชนจากัด ชาระเงินค่าดูแลรักษาและค่าเสียหาย กรณีผิดสัญญา
�
ื
ั
ุ
�
ู
่
ิ
ุ
ว่าจ้างโจทก์ให้ปรับปรงโปรแกรม และดแลบารงรกษาเครองคอมพวเตอร์
�
�
จาเลยเป็นบริษัทมหาชนจากัด ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.
2542 จาเลยมีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครองได้ก็ต่อเม่อเป็นหน่วยงาน
�
ื
ี
�
ท่ได้รับมอบหมายให้ใช้อานาจทางปกครองหรือให้ดาเนินกิจการ
�
ั
ทางปกครองเท่าน้น ข้อเท็จจริงคดีนี้จาเลยทาสัญญาพิพาทว่าจ้างโจทก์
�
�
ื
ปรับปรุงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพ่อปรับปรุงระบบบัญชี การเงิน และ
การบริหารทรัพยากรท่ใช้อยู่เดิม อันเป็นการเพ่มประสิทธิภาพในการ
ิ
ี
�
ทางานระบบการเงินและการบัญชีของจาเลย ดังน้ การดาเนินการ
�
ี
�
ตามข้อสัญญาพิพาทจึงเป็นเพียงการท่จาเลยมุ่งประสงค์ให้โจทก์เข้า
�
ี
ื
�
�
มาดาเนินการจัดการงานทางธุรการเพ่อความสะดวกของจาเลยในการ
ี
ปฏิบัติงานทางธุรการเท่าน้น จึงเป็นคดีพิพาทเก่ยวกับสัญญาทางแพ่ง
ั
ี
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๒๔/๒๕๕๗
�
ี
ี
�
ี
ึ
คดท่โจทก์เป็นเอกชนฟ้องขอให้จาเลยซ่งเป็นหน่วยงานของรัฐชาระ
�
�
ี
เงินค่าเสียหาย กรณีผิดสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้พัฒนาระบบเทคโนโลย ี
ั
�
�
ี
่
สารสนเทศของสภาวชาชพบัญชี เมอข้อเท็จจรงคดน้จาเลยทาสญญา
ิ
ี
ี
ื
ิ
พิพาทว่าจ้างโจทก์ดาเนินการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ
�
81