Page 94 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 94
ี
�
ี
เรียนการสอนตามอานาจหน้าท่ท่เป็นการจัดทาบริการสาธารณะของ
�
�
�
ี
จาเลยเท่าน้น ไม่ใช่ให้โจทก์เข้ามาทาหน้าท่ในการจัดทาบริการสาธารณะ
ั
�
�
�
เพราะจาเลยสามารถจัดทาบริการสาธารณะอันเป็นภารกิจหลักได้
ี
ต่อเน่องตลอดมาต้งแต่ก่อนท่จะมีการจัดจ้างโจทก์เข้ามาให้บริการ และ
ื
ั
แม้ว่าตามข้อตกลงจะมีข้อสัญญาท่ทาให้เข้าใจไปได้ว่าเป็นการท่ฝ่าย
ี
ี
�
�
�
ปกครองมีอานาจเหนือเอกชนก็ตาม แต่ลักษณะอานาจเหนือกว่าคู่สัญญา
ึ
�
ี
�
อีกฝ่ายหน่งเป็นไปตามอานาจต่อรองระหว่างคู่สัญญา ส่วนการท่จาเลย
�
�
�
จ้างพนักงานของโจทก์เป็นพนักงานของจาเลยให้ทางานในตาแหน่งท ่ ี
ี
มีลักษณะงานเช่นเดียวกับขณะท่เป็นพนักงานของโจทก์ และโจทก์ยก
ี
ข้อความในใบเสนอราคาในส่วน Remark ข้อ 2 ท่ว่า “ผู้ว่าจ้างยินยอม
�
ท่จะไม่ทาการว่าจ้างพนักงานของทางบริษัทฯ ท่ลาออกยังไม่ครบ 1 ปี
ี
ี
นับแต่วันทลาออกจากทางบรษัทฯ” ซ่งตามสัญญาจ้าง ข้อ 8.3 ถือว่า
ี
ึ
ิ
่
ั
ั
้
่
�
เป็นส่วนหนงของสัญญานนมาฟ้องว่าจาเลยผดสญญา กเป็นข้อสญญาท ี ่
็
ั
ิ
ึ
ี
ไม่มีความเก่ยวข้องใดกับการให้บริการตามสัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับ
ี
จาเลยอีกเช่นกัน ท้งเป็นข้อสัญญาท่จาเลยซ่งเป็นหน่วยงานของรัฐอยู่
�
ั
�
ึ
ในฐานะท่ต้องยอมรับเง่อนไขของโจทก์ซ่งเป็นเอกชน ไม่มีฐานะเหนือ
ึ
ื
ี
ื
่
ี
ั
ั
�
ั
เอกชน เมอสญญาระหว่างโจทก์กบจาเลย ไม่มลกษณะเป็นการว่าจ้าง
�
โจทก์เข้าร่วมในการจัดทาบริการสาธารณะโดยตรงและไม่มีลักษณะ
ั
ั
ื
ั
ั
ี
ี
่
ิ
เป็นสญญาสมปทาน สญญาทให้จดทาบรการสาธารณะ หรอจดให้มสง ่ ิ
�
ั
สาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ จึงไม่เป็น
ี
สัญญาทางปกครอง สัญญาระหว่างโจทก์กับจาเลยในคดีน้เป็นสัญญา
�
ทางแพ่ง
�
�
ี
ี
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๑๒๖/๒๕๖๑
ี
คดีท่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ผู้ฟ้องคดี ซ่งเป็นหน่วยงาน
ึ
ี
83