Page 348 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 348
วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษ
7
ทําการไกล่เกลี่ยก่อนมิฉะนั้นถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ หลังจากนั้นต้องเดินทางมา
ั
ื
เพ่อนัดพิจารณาสืบพยานอีกหลายนัด ทําให้ต้องเดินทางมาศาลหลายคร้ง นอกจากเสียค่าเดินทาง
้
ี
ั
ํ
ี
ื
แล้วยังต้องเสยค่าอาหาร หรอในบางครงไม่มีเท่ยวรถเดินทางกลับภูมิลาเนา ลูกจ้างก็ต้อง
เสียค่าที่พักค้างคืน และยังไม่นับรวมที่ต้องลาหยุดกับนายจ้างใหม่ หากเป็นลูกจ้างรายวันย่อม
ิ
ทําให้ลูกจ้างขาดรายได้ในการดํารงชีวิต หรือถ้าเป็นลูกจ้างทดลองงานย่งไม่สามารถลางานมาได้
ี
ด้วยเหตุนี้ ลูกจ้างจึงเลือกท่จะไม่มาศาลและยอมปล่อยให้คดีขาดนัดต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีไป
ซึ่งอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างทั้งที่ตนไม่มีโอกาสต่อสู้คดี 8
เพราะฉะน้น การแปลความว่าสถานท่ทําสัญญาจ้างแรงงานเป็นสถานท่ท่มูลคดีเกิด
ี
ี
ั
ี
ี
ี
ในคดีท่มีข้อเท็จจริงลักษณะน้จึงทําให้เกิดความไม่เป็นธรรม เพราะลูกจ้างถูกกีดกันจากการเข้าถึง
ื
กระบวนการยุติธรรม (Access to Justice) เน่องจากสถานะทางการเงิน อันเป็นการกระทบ
กับหลักนิติธรรมอย่างมีนัยสําคัญ การตีความกฎหมายแล้วก่อให้เกิดผลกลายเป็นการขัดขวาง
9
หลักนิติธรรมเป็นส่งทควรหลีกเลยงอย่างย่งสําหรับนักกฎหมาย ซึ่งหากตีความตามตัวบทมาตรา 33
ี
ี
่
ิ
ิ
่
ี
ี
ี
ี
ท่ให้ถือว่าสถานท่ทํางานเป็นสถานท่ท่มูลคดีเกิด แม้ภาระจะตกไปอยู่แก่ฝ่ายนายจ้าง ทําให้
นายจ้างมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ก็ยังตั้งอยู่ภายในขอบสมมติฐานของกฎหมายแรงงานว่านายจ้าง
มีอํานาจและฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าลูกจ้าง การแปลความตามตัวบทมาตรา 33 โดยตรง จึง
มความชอบธรรมตามเจตนารมณ์ในการร่างกฎหมายและให้ความเป็นธรรมมากกว่า ในขณะ
ี
่
ี
เดียวกัน ในกรณท่ลูกจ้างตองย้ายสถานททํางานไปยังทอ่น ไม่สะดวกท่จะฟ้องยังสถานท่ทางาน
้
ี
ื
ํ
ี
ี
ี
ี
่
เดิม ก็สามารถขออนุญาตฟ้องคดีที่ที่ตนมีภูมิลําเนาอยู่ได้ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง หรืออาจขอ
ี
ิ
ึ
ื
อนุญาตโอนคดีไปยังศาลแรงงานอ่นท่มีเขตอํานาจตามมาตรา 33 วรรคสาม ซ่งมีการแก้ไขเพ่มเติม
ั
โดยพระราชบัญญัติจัดต้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับท่ 3) พ.ศ. 2558 ได้
10
ี
�
ี
7 คาพิพากษาศาลฎีกาท่ 6630/2542 คดีแรงงานเป็นคดีมีลักษณะพิเศษอันควรระงับลงได้ด้วยความเข้าใจอันด ี
ต่อกันดังท่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดต้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 38 วรรคหน่ง
ี
ั
ึ
เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลแรงงานได้ไกล่เกลี่ยให้โจทก์จําเลยได้ตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกัน ศาลฎีกาจึงให้ศาลแรงงาน
ี
ดําเนนกระบวนพิจารณาใหม่ต้งแต่การไกล่เกล่ยโจทก์จําเลยตามมาตรา 38 เป็นต้นไปแล้วมีคําส่งหรือคําพิพากษาใหม่ตามรูปคด ี
ั
ิ
ั
8 ในทางปฏิบัติ บริษัทขนาดใหญ่จะมีการซื้อประกันความซื่อสัตย์ของลูกจ้าง (Fidelity Guarantee Insurance Policy)
เมื่อนายจ้างชนะคดีก็สามารถเรียกจากบริษัทประกันภัยได้โดยไม่ต้องไปบังคับเอากับลูกจ้างอีก
9 “ความสามารถในการเข้าถึงความยุติธรรมเป็นหลักพ้นฐานของหลักนิติธรรม หากปราศจากความสามารถในการ
ื
เข้าถึงความยุติธรรมเสียแล้ว สิทธิที่จะเรียกร้องซึ่งความเป็นธรรม ...ย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย” ที่มา United Nation, Access
to Justice, available at https://www.un.org/ruleoflaw/thematic-areas/access-to-justice-and-rule-of-law-institutions/access-
to-justice/ (Last Visited 11 February 2020).
ี
ี
10 แต่ผู้เขียนเห็นว่า การจะโอนไปยังศาลท่ไม่มีความเก่ยวพันกับมูลคดีเสียเลย หรือไม่ใช่ศาลท่ลูกจ้างมีภูมิลําเนา
ี
ก็ไม่ควรอนุญาตให้โอนคดี เว้นแต่ มีเหตุผลและความจําเป็นที่เพียงพอ ซึ่งในทางปฏิบัติก็มีการโอนคดีตามมาตรา 33 วรรคสาม
นี้อยู่บ้าง
346