Page 67 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 67
ดุลพาห
อนุญาโตตุลาการกับการพิจารณาโดยเปิดเผย :
จุดเปลี่ยนในอนาคต ?
สุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล
พิชญา ธรรมาพิทักษ์กุล
บทนำ�
การอนุญาโตตุลาการกับการดำาเนินกระบวนการทางศาลมีความเกี่ยวข้องและ
สัมพันธ์กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๗ ในยุคแรกสภาพบังคับของคำาชี้ขาดขึ้นอยู่กับเงื่อนไข
ในข้อตกลงหรือคำามั่นสัญญา แต่กระบวนการที่ถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุด น่าจะได้แก่การเริ่ม
กระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยการฟ้องคดีในศาล และโจทก์จำาเลยขอให้มีการชี้ขาด
๑
ข้อพิพาทบางประเด็นโดยอนุญาโตตุลาการ ดังนั้น ในยุคแรกกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ผูกแนบแน่นอยู่กับกระบวนพิจารณาของศาล ในทำานองเดียวกับที่บัญญัติ
ไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๑๐ การที่คู่พิพาทฝ่ายที่ถูกชี้ขาด
๒
ให้ชำาระหนี้แล้วไม่ปฏิบัติตามจึงเท่ากับฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำาพิพากษาของศาล ซึ่งย่อมนำาไปสู่
การบังคับคดีตามกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีของศาลต่อไป
ในปัจจุบันการอนุญาโตตุลาการทางการค้าได้รับการส่งเสริมและพัฒนาไปอย่าง
กว้างขวาง พ่อค้า นักธุรกิจนิยมเลือกใช้เพื่อระงับข้อพิพาทในระหว่างพ่อค้าด้วยกัน ทั้งการค้า
ในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในระดับสากลว่าการระงับ
๑. Lord Parker, The History and Development of Commercial Arbitration : Recent Development
in the Supervisory Powers of the Courts over Inferior Tribunals : Lectures (Magnas Press,
Hebrew University, 1959), pp 14.
๒. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๑๐ บัญญัติว่า “บรรดาคดีทั้งปวงซึ่งอยู่ในระหว่าง
พิจารณาของศาลชั้นต้น คู่ความจะตกลงกันเสนอข้อพิพาทอันเกี่ยวกับประเด็นทั้งปวงหรือแต่ข้อใดข้อหนึ่ง
ให้อนุญาโตตุลาการคนเดียวหรือหลายคนเป็นผู้ชี้ขาดก็ได้ โดยยื่นคำาขอร่วมกันกล่าวถึงข้อความแห่งข้อตกลง
เช่นว่านั้นต่อศาล ถ้าศาลเห็นว่าข้อตกลงนั้นไม่ผิดกฎหมาย ให้ศาลอนุญาตตามคำาขอนั้น”.
56 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕