Page 79 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 79
ดุลพาห
พัฒนาทำาโดยอนุบัญญัติต่างๆ ซึ่งทำาได้โดยไม่ต้องผ่านรัฐสภา สถาบันอนุญาโตตุลาการต่างๆ
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรื่องการอนุญาโตตุลาการจะเป็นผู้พัฒนาข้อบังคับของตนเองให้ทันสมัย
ความเห็นของผู้เกี่ยวข้องโดยตรง คือ อนุญาโตตุลาการ ทนายความ และสภาหอการค้าต่างๆ
มีความสำาคัญมากกับการพัฒนากฎหมายและข้อบังคับ ประเทศไทยควรเอาอย่างประเทศ
สิงคโปร์ในเรื่องเหล่านี้
๔. สำานักบริหารคดีอนุญาโตตุลาการ
สถาบันอนุญาโตตุลาการมักจัดตั้งสำานักงานบริหารคดีองค์ประกอบของสำานักงานนั้น
นอกจากข้อบังคับในการทำางานที่ทันสมัยซึ่งประเทศไทยสามารถลอกเลียนแบบจากสถาบัน
ที่ประสบความสำาเร็จในการบริหารคดี ยังมีเรื่องคุณภาพของเจ้าหน้าที่และเครื่องไม้เครื่องมือ
ในด้านเจ้าหน้าที่นั้น ในการบรรจุต้องกำาหนดคุณสมบัติผู้รับเข้าให้สูงโดยต้องมีทั้ง
วุฒิการศึกษาและประสบการณ์บวกกับความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาต่างประเทศ
โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เมื่อคัดเลือกได้แล้วต้องจัดให้มีการอบรมเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจ
กระบวนการที่ตนต้องทำา การได้มาซึ่งบุคลากรที่มีคุณสมบัติสูงนี้ต้องใช้เงินไม่น้อย สถาบัน
อนุญาโตตุลาการจำาเป็นต้องได้รับการอุดหนุนทางการเงินจากรัฐบาลเพื่อเป็นการลงทุนในการ
ค้าที่มองไม่เห็น อันจะนำามาซึ่งรายได้ในอนาคต ทั้งนี้รัฐบาลอาจจะใช้วิธีตั้งกองทุนเพื่อใช้แต่
ดอกผลในการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้มีการเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเพียงครั้งแรกคือ ในขั้นเริ่มต้น
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสดงถึงความเป็นกลางของสถาบันอนุญาโตตุลาการ และการไม่สามารถใช้
อิทธิพลของรัฐบาล ความคิดนี้สถาบันอนุญาโตตุลาการในสังกัดสำานักงานศาลยุติธรรมเคย
ริเริ่มมาแล้วตั้งแต่สมัยที่กระทรวงยุติธรรมยังไม่ได้ตั้งหน่วยงานในด้านอนุญาโตตุลาการขึ้น
เป็นเอกเทศ น่าคิดว่าการยุบหน่วยงานในสองสังกัดมารวมกัน น่าจะทำาให้แนวคิดการพัฒนา
จะได้ผลรวดเร็วง่ายขึ้นและประหยัดจริง
นอกจากด้านเจ้าหน้าที่แล้ว เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยจะทำาให้คดีดำาเนินไปได้
เร็วขึ้น การถอดคำาพยานด้วยเครื่องมือจะทำาให้สามารถแจกสำาเนาคำาพยานเป็นลายลักษณ์
ได้รวดเร็ว การซักค้าน การถามติง จะดำาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ น่าสังเกตด้วยว่า
ในคดีพาณิชย์ พยานที่สำาคัญที่สุดคือพยานเอกสาร คำาเบิกความของพยานปากเป็นแต่เพียง
พยานประกอบเท่านั้น
68 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕