Page 148 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 148
ดุลพาห
มีความผิด ศาลยังคงขาดพยานหลักฐานที่จำาเป็นต่อการกำาหนดโทษแก่จำาเลย ด้วยเหตุนี้
ในแผนการปฏิรูปประเทศจึงกำาหนดให้มีการแก้ไขกฎหมายกำาหนดให้มี sentencing hearing
เพื่อให้ศาลมีข้อมูลที่จำาเป็นแก่การกำาหนดโทษอย่างเพียงพอและเหมาะสมนั่นเอง
๗.๓ ศาลไทยมียี่ต็อกแล้วทำาไมต้องมี sentencing guidelines
ดังได้กล่าวมาแล้วว่ายี่ต็อกของศาลไทยนั้นมีลักษณะต่างศาลต่างทำาและเป็นความลับ
แม้ความจริงจะมีการเปรียบเทียบกับยี่ต็อกของศาลในภาคเดียวกันหรือของศาลสูงที่มี
เขตอำานาจ แต่ความแตกต่างกันยังคงมีอยู่ และเป็นความแตกต่างที่ไม่มีข้อมูลหลักฐานหรือ
หลักวิชาการรองรับ ประกอบกับเมื่อเนื้อหาของยี่ต็อกเป็นความลับ ผู้มีส่วนได้เสียก็ไม่สามารถ
โต้แย้งได้ว่าที่ศาลกำาหนดยี่ต็อกในลักษณะดังกล่าวนั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ หากมีการ
อุทธรณ์ขึ้นไป ศาลอุทธรณ์บางศาลก็มียี่ต็อกของศาลนั้นๆ เอง ซึ่งศาลจัดทำาเองโดยมีเนื้อหา
เป็นความลับเช่นกัน ดังนั้น ยี่ต็อกในฐานะที่เป็นกฎเกณฑ์ในการกำาหนดโทษ (sentencing
rules) จึงมีปัญหาความชอบด้วยหลักนิติธรรม (the rule of law) ทั้งในมิติของความเป็น
อำาเภอใจ (arbitrariness) ความโปร่งใส (transparency) และการเข้าถึงได้ (accessibility)
ซึ่งอาจถูกโต้แย้งได้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในขณะที่แนวทางการกำาหนดโทษ (sentencing
guidelines) นั้น จัดทำาโดยมีหลักวิชาการและข้อมูลเชิงประจักษ์รองรับ มีการรับฟัง
ความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องกับประชาชน และมีกระบวนการจัดทำากับเนื้อหาที่เปิดเผย
ผู้เกี่ยวข้องสามารถโต้แย้งได้ว่าอัตราโทษหรือปัจจัยต่างๆ ที่กำาหนดในแนวทางนั้นไม่เหมาะสม
อย่างไร และเมื่อกำาหนดแนวทางขึ้นมาแล้ว ทุกศาลซึ่งหมายถึงทั้งศาลล่างและศาลสูง
ก็ต้องยึดแนวทางเดียวกันนั้นในการกำาหนดโทษ หากจะกำาหนดโทษต่างออกไปก็ต้องมีเหตุผล
ว่าอัตราโทษที่กำาหนดตามแนวทางนั้นไม่เหมาะสมกับคดีนั้นๆ อย่างไร โดยต้องระบุเหตุผล
อย่างชัดแจ้งเพื่อให้คู่ความสามารถอุทธรณ์โต้แย้งได้และเพื่อให้ศาลสูงได้ตรวจสอบ
๗.๔ ทำาไมต้องมีแนวทางการกำาหนดโทษอาญา (sentencing guidelines) ที่มีกฎหมาย
รองรับ
แนวทางการกำาหนดโทษที่จัดทำาขึ้นอย่างมีหลักวิชาจะไม่มีประโยชน์ใดๆ เลยหาก
ไม่ถูกนำาไปใช้จริง ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสกอตแลนด์จึงกำาหนดในกฎหมายว่าศาล
มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหรืออย่างน้อยต้องคำานึงถึงแนวทางการกำาหนดโทษดังกล่าวในการ
กำาหนดโทษ โดยหากจะกำาหนดโทษให้ต่างออกไปจะต้องให้เหตุผล ซึ่งระดับของผลผูกมัด
ตามกฎหมายของแนวทางการกำาหนดโทษนี้อาจมีความเคร่งครัดได้หลายระดับ แต่ต้อง
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 137