Page 145 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 145

ดุลพาห




            การลงโทษให้ได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด ทั้งในคดียาเสพติดและคดีอาญาอื่น
            จึงเป็นไปได้ที่จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอัตราโทษอาญาทั้งระบบในอนาคตอันใกล้นี้


                     ๓)  การสร้างจิตสำานึกร่วมกันในการลดจำานวนผู้ต้องขังในเรือนจำา
                     หากประเทศไทยต้องการแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำาอย่างยั่งยืน หน่วยงานที่

            เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาต้องกำาหนดเป้าหมายร่วมกันในการลดจำานวน

            ผู้ต้องขังในเรือนจำาให้อยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
            โดยไม่กระทบต่อความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กับต้องสร้าง
            จิตสำานึกร่วมกันของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม สื่อมวลชนและสังคมว่าการแก้ไข

            ปัญหาอาชญากรรมไม่อาจพึ่งพาเรือนจำาเพียงอย่างเดียว และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่าง

            มีมนุษยธรรมตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคม
            อาชญากรรมเป็นปัญหาของสังคม ไม่ใช่ปัญหาของกระบวนการยุติธรรมเพียงอย่างเดียว
            งบประมาณในการสร้างเรือนจำาอาจนำาไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นซึ่งสามารถแก้ไขปัญหา

            อาชญากรรมอย่างยั่งยืนได้


            ๗. เครื่องมือและกลไกในการปฏิรูประบบการกำาหนดโทษ


                     จากประสบการณ์ของประเทศตะวันตกพบว่ามีเครื่องมือทางกฎหมายและทาง
            บริหารหลายประการที่สามารถนำามาใช้เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการกำาหนดโทษ

            ซึ่งเครื่องมือแต่ละประเภทนั้นมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการ
            ปฏิรูปที่แตกต่างกันออกไป จากการศึกษาเปรียบเทียบพบว่าเครื่องมือที่สามารถบรรลุ

            เป้าหมายของการปฏิรูประบบการกำาหนดโทษหลายเป้าหมายในเวลาเดียวกันคือการจัดตั้ง
            คณะกรรมการการกำาหนดโทษ (sentencing commission) เพื่อจัดทำาแนวทางการ

            กำาหนดโทษ (sentencing  guidelines) ซึ่งในแผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการ
            ยุติธรรมได้กำาหนดให้ใช้แนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางการปฏิรูปการกำาหนดโทษอาญา

            ของไทยเช่นกัน นอกจากนั้นยังได้กำาหนดให้มีการจัดทำาฐานข้อมูลการกำาหนดโทษอาญา
            (sentencing information system) และการกำาหนดให้มีกระบวนพิจารณาไต่สวน

            เพื่อกำาหนดโทษ (sentencing hearing) แยกต่างหากจากกระบวนพิจารณาปกติเพื่อวินิจฉัย
            ว่าจำาเลยกระทำาผิดตามฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าศาลจะมีข้อมูลที่เพียงพอ

            ต่อการกำาหนดโทษ  ซึ่งรายละเอียดของเครื่องมือแต่ละประเภทจะได้กล่าวถึงเป็นลำาดับต่อไป





            134                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150