Page 222 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 222
ดุลพาห
ยุติธรรมไทย ดังนั้น หากศาลจะมีการร้องขอความร่วมมือในการส่งเอกสารสำานวนความไปยัง
มลรัฐออนแทริโอและรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา จึงต้องแนบดราฟต์สั่งจ่ายในนาม
“Ministry of Finance of Ontario” หรือ “Ministry of Finance of British Columbia”
แล้วแต่กรณี เป็นเงินจำานวน ๑๐๐ ดอลลาร์แคนาดาไปพร้อมกับคำาร้องขอความร่วมมือด้วย
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่กระทรวงยุติธรรมแห่งมลรัฐกำาหนด ดังนั้น การจัดวางระเบียบ
ปฏิบัติของศาลในคดีแพ่งทั่วไปเกี่ยวกับการส่งคำาคู่ความระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตาม
ข้อกำาหนดฯ ข้อ ๔ ศาลจึงต้องจัดให้มีการวางเงินสำาหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายเป็นรายคดีเพื่อการ
จัดส่งหมายเรียกและคำาฟ้องตั้งต้นคดี โดยให้โจทก์ยื่นคำาแถลงไว้ล่วงหน้าว่าเมื่อได้ชำาระค่า
ใช้จ่ายทั้งปวงแล้ว หากเงินค่าใช้จ่ายที่วางไว้มีเหลืออยู่เพียงใด ให้คืนแก่ผู้มีสิทธิได้รับ ในกรณี
ส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศซึ่งเป็นวิธีการตามกฎหมายใหม่ซึ่งได้รับการแก้ไข
เพิ่มเติมให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ศาลอาจมีคำาสั่งให้โจทก์วางเงินไม่เกินอัตราค่า
บริการโดยแบ่งตามพื้นที่ของประเทศปลายทาง และหากจัดส่งโดยผ่านช่องทางผู้ประกอบ
กิจการรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ให้โจทก์วางเงินตามอัตราค่าบริการที่ได้รับแจ้งจาก
๖
ผู้ประกอบกิจการ แต่อย่างไรก็ดี ในกรณีส่งผ่านวิถีทางการทูต ซึ่งศาลยุติธรรมของต่างประเทศ
อาจมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการให้ความร่วมมือในภายหลัง ศาลอาจมีคำาสั่งให้
โจทก์วางเงินค่าใช้จ่ายในจำานวนที่เหมาะสม ซึ่งหากปรากฏว่าไม่เพียงพออาจสั่งให้โจทก์วาง
เงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ได้ เว้นแต่กรณีการส่งเอกสารไปยังประเทศที่มีแนวปฏิบัติเฉพาะที่
ต้องแนบค่าใช้จ่ายในการดำาเนินการล่วงหน้าตามที่ผู้เขียนได้กล่าวถึงข้างต้น ก็ให้โจทก์วางเงิน
ค่าใช้จ่ายตามแนวปฏิบัติที่สำานักงานศาลยุติธรรมกำาหนดซึ่งได้ออกเป็นหนังสือเวียนและ
แจ้งให้ศาลยุติธรรมทราบเป็นรายกรณีแล้ว
๖. พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา
๑๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๘๓ สัตต แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ และให้ใช้
ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๘๓ สัตต เมื่อโจทก์ได้ปฏิบัติตามมาตรา ๘๓ จัตวา แล้ว ถ้าไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศ
ที่ประเทศไทยเป็นภาคีกำาหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ศาลดำาเนินการส่งให้แก่จำาเลยหรือบุคคลภายนอกโดยทาง
ไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศหรือผู้ประกอบกิจการรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศหรือโดยผ่าน
สำานักงานศาลยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำาหนดไว้ในข้อ
กำาหนดของประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และเมื่อข้อกำาหนดนั้นประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้”.
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 211