Page 226 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 226
ดุลพาห
ในศาลไทย ซึ่งคู่ความย่อมได้รับยกเว้นไม่ต้องชำาระค่าฤชาธรรมเนียม ตามพระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดี
ผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ แล้วแต่กรณี
ในการนี้ วิธีการส่งตามข้อ ๑. ทั้งวิธีการดำาเนินการผ่านข้อตกลงระหว่างประเทศ
และผ่านวิถีทางการทูต (Diplomatic Channels) ต่างเป็นวิธีที่จะต้องอาศัยหรือร้องขอต่อ
เจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ตามนัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๔
ซึ่งกำาหนดให้ศาลสามารถประสานความร่วมมือกับศาลต่างประเทศโดยผ่านข้อตกลงระหว่าง
ประเทศหรือให้ศาลปฏิบัติตามหลักทั่วไปแห่งกฎหมายระหว่างประเทศได้ โดยในกรณีการ
ประสานความร่วมมือผ่านข้อตกลงระหว่างประเทศ ตามข้อ ๑.๑ ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี
ในการส่งหมายเรียกและคำาฟ้องตั้งต้นคดีจะเป็นการกระทำาให้เปล่า โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย
ในการดำาเนินการแต่อย่างใด ทั้งนี้ ภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศที่ตกลงไว้ในสนธิสัญญา
หรือความตกลงทางการศาลระหว่างประเทศ
แต่อย่างไรก็ดี หากเป็นกรณีที่ศาลมีคำาสั่งให้ส่งผ่านวิถีทางการทูต ตามข้อ ๑.๒
สำานักงานศาลยุติธรรมจะต้องประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งหมายเรียกและ
สำาเนาคำาฟ้องตั้งต้นคดีไปยังสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือหน่วยงานอื่นของไทยใน
ต่างประเทศในการดำาเนินการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของต่างประเทศ ซึ่งจะดำาเนิน
การภายใต้หลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติและไมตรีจิตระหว่างกัน (Comity) โดยศาลไทยจะต้องมี
ถ้อยคำายืนยันอย่างเป็นทางการในหนังสือร้องขอ (Letter of Request) ว่าหากศาลของ
ต่างประเทศให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ร้องขอ ศาลไทยก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือในลักษณะ
อย่างเดียวกัน หากได้รับคำาร้องขอจากศาลต่างประเทศ ซึ่งเป็นหลักการปฏิบัติต่างตอบแทน
(Reciprocity) ทั้งนี้ โดยทั่วไปการประสานความร่วมมือในลักษณะดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่าย
อันเกิดจากการดำาเนินการของเจ้าหน้าที่หรือศาลต่างประเทศ
ข้อสรุป
จากข้อพิจารณาข้างต้น ในคดีแรงงานและคดีผู้บริโภค หากศาลมีคำาสั่งให้ส่งหมาย
เรียกและคำาฟ้องตั้งต้นคดีแก่จำาเลย ณ ภูมิลำาเนาหรือสำานักทำาการงานอยู่นอกราชอาณาจักร
โดยวิธีผ่านข้อตกลงระหว่างประเทศซึ่งยกเว้นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำาเนินการ
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 215