Page 231 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 231
ดุลพาห
ค่าปรับ ให้ศาลเปลี่ยนโทษปรับเป็นส่งตัวไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมภายใต้เงื่อนไขตามกฎหมาย
กับกรณีเด็กหรือเยาวชนไม่มีเงินชำาระค่าปรับ แต่ประสงค์จะขอทำางานบริการสังคมหรืองาน
สาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ จึงเป็นกรณีที่กฎหมายกำาหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าต้องดำาเนินการ
ในทางใดได้บ้าง ไม่มีกรณีที่ให้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของเด็กและเยาวชนได้
ในทำานองเดียวกับกรณีที่ผู้กระทำาความผิดมิใช่เด็กและเยาวชนตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๙ เมื่อพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวฯ เป็นกฎหมายเฉพาะที่บัญญัติ
ไว้ชัดเจนแล้ว ก็ไม่อาจนำาบทบัญญัติที่เป็นกฎหมายทั่วไปมาบังคับในกรณีนี้ได้ สำาหรับคดีนี้
เมื่อปรากฏว่าจำาเลยไม่ชำาระค่าปรับ ก็ต้องส่งจำาเลยไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมแทนการชำาระ
ค่าปรับเพียงประการเดียวตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย แม้ในระหว่างฝึกอบรม จำาเลยอาจจะ
ขอชำาระค่าปรับที่ยังคงเหลือให้เสร็จสิ้นไปได้ ก็เป็นวิธีการที่กำาหนดขึ้นเพื่อให้สิทธิแก่จำาเลย
ไม่ทำาให้โจทก์มีสิทธิขอตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำาเลยชำาระ
แทนค่าปรับได้
การระบุในคำาพิพากษาเกี่ยวกับวิธีบังคับโทษปรับว่าหากผู้กระทำาความผิดไม่ชำาระ
ค่าปรับ ให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐ โดยไม่กล่าวถึงการยึดหรืออายัด
ทรัพย์สินเพื่อใช้ค่าปรับตามมาตรา ๒๙ ก่อน เป็นการบังคับโทษปรับที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมาย
กำาหนด
คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๕๘๔/๒๕๕๘
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ บัญญัติว่า “ผู้ใดต้องโทษปรับและไม่ชำาระ
ค่าปรับภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับ หรือ
มิฉะนั้นจะต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ...” คำาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า
ระหว่างประเทศกลางที่พิพากษาว่า หากจำาเลยที่ ๒ ไม่ชำาระค่าปรับ ให้กักขังแทนค่าปรับตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐ โดยไม่ได้ระบุให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
๒๙ และ ๓๐ เป็นการบังคับให้จำาเลยที่ ๒ ชำาระค่าปรับโดยไม่ได้ยึดทรัพย์สินของจำาเลยที่ ๒
มาชดใช้ค่าปรับก่อนแล้วให้กักขังจำาเลยที่ ๒ แทนค่าปรับทันที ซึ่งเป็นการพิพากษาบังคับให้
จำาเลยที่ ๒ ชำาระค่าปรับที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙
220 เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕