Page 230 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 230
ดุลพาห
ดังกล่าวได้บัญญัติไว้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับคดีในการชำาระค่าปรับแก่เด็กหรือ
เยาวชนที่ไม่ชำาระค่าปรับว่าให้ใช้วิธีการสำาหรับเด็กและเยาวชนคือการส่งฝึกอบรมเท่านั้น
หาใช่ใช้การกักขังแทนค่าปรับ หรือมุ่งบังคับในทางทรัพย์สินของเด็กและเยาวชนแต่อย่างใด
จึงเป็นบทบัญญัติยกเว้นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ หาจำาต้องใช้มาตราดังกล่าวแก่
จำาเลยไม่
คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๑๖/๒๕๖๑
พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีเด็กหรือเยาวชนต้องโทษปรับ... ห้าม
มิให้ศาลสั่งกักขังเด็กหรือเยาวชนแทนค่าปรับ แต่ให้ศาลส่งตัวไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมในสถาน
ที่ที่กำาหนดไว้...” และวรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนต้องโทษปรับ แต่ไม่มีเงิน
ชำาระค่าปรับ ให้นำาบทบัญญัติมาตรา ๓๐/๑ มาตรา ๓๐/๒ และมาตรา ๓๐/๓ แห่งประมวล
กฎหมายอาญามาใช้บังคับโดยอนุโลม” จากบทบัญญัติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า กรณีเด็กหรือ
เยาวชนต้องโทษปรับ ไม่ให้มีการกักขังแทนค่าปรับ คงให้ส่งไปควบคุมเพื่อฝึกอบรมเท่านั้น ซึ่ง
เป็นบทบัญญัติเฉพาะและเป็นข้อยกเว้นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ ที่ให้กักขังแทน
ค่าปรับ หรือยึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินเพื่อใช้ค่าปรับ ซึ่งเป็นบททั่วไปเพื่อ
เป็นการคุ้มครองสิทธิ สวัสดิภาพ และวิธีปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนให้สามารถที่จะดำาเนินชีวิต
ต่อไปได้และกลับคืนสู่สังคมในสภาพที่ดีขึ้น เมื่อการบังคับคดีตามคำาพิพากษาเกี่ยวกับเด็กและ
เยาวชนเสร็จสิ้น โดยจะเห็นได้จากวรรคสองแห่งมาตรา ๑๔๕ ดังกล่าวที่ให้นำามาตรา ๓๐/๑
มาตรา ๓๐/๒ และมาตรา ๓๐/๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้โดยอนุโลมเท่านั้น มิได้
กล่าวถึงมาตรา ๒๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญาแต่ประการใด โจทก์ไม่มีอำานาจยื่นคำาร้อง
ขอให้ออกหมายยึดทรัพย์สินหรืออายัดทรัพย์สินของจำาเลยใช้ค่าปรับตามคำาพิพากษาในกรณี
ที่จำาเลยเป็นเด็กหรือเยาวชนกระทำาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง
คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๘๒๕/๒๕๕๘
พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้บัญญัติเกี่ยวกับการบังคับโทษปรับในกรณีเด็กและเยาวชนต้องโทษปรับ
แต่ไม่มีการชำาระค่าปรับไว้ในมาตรา ๑๔๕ เป็น ๒ กรณี คือ กรณีเด็กหรือเยาวชนไม่ชำาระ
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 219