Page 83 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 83

ดุลพาห




            เป็นสังหาริมทรัพย์ และเมื่อพิจารณาคำาว่า “สังหาริมทรัพย์” แล้วย่อมรวมถึงสิทธิที่เกี่ยวกับสิ่ง
            บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ด้วย โดยสิทธิที่เกี่ยวข้องกับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะมีด้วยกัน ๒ ประการ คือ

            สิทธิชุมชนและสิทธิในการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่จะนำามาเป็นหลักประกันได้ ทั้งนี้ สิ่งบ่งชี้

            ทางภูมิศาสตร์มีลักษณะแตกต่างจากทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ เนื่องจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
            ที่ขึ้นทะเบียนไม่ได้เป็นสิทธิของผู้หนึ่งผู้ใดเด็ดขาด แต่เป็นสิทธิของคนในชุมชนนั้นๆ โดยสิทธิ

            ชุมชนเป็นการซ้อนกันของสิทธิปัจเจกกับสิทธิชุมชน โดยสิทธิชุมชนมิใช่สิทธิเด็ดขาดของบุคคล
            ใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นของกลุ่มบุคคลที่มีวิถีชีวิตซึ่งสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในทางสังคม เศรษฐกิจ

            วัฒนธรรม หรือสิ่งแวดล้อม โดยมีความสำานึกรับผิดชอบหรือผลประโยชน์ในการอยู่ร่วมกัน ซึ่ง
            ชุมชนจะเป็นผู้ทรงสิทธิในลักษณะของนิติบุคคลในวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมดังเช่นสิ่งบ่งชี้

            ทางภูมิศาสตร์อันเป็นสิทธิชุมชนที่ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมกันในการจัดการ การบำารุงรักษา

            และการใช้ประโยชน์อย่างเจ้าของรวมในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล
            และยั่งยืนตามมาตรา ๕, ๖, ๘ และ ๙ แห่งร่างพระราชบัญญัติสิทธิชุมชน พ.ศ. ....


                     สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นสิ่งบ่งบอกถึงคุณภาพ ชื่อเสียง และคุณลักษณะเฉพาะ
            ของสินค้าตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยมาตรา ๓ ได้ให้

            คำานิยามคำาว่า “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หมายความว่า ชื่อ สัญลักษณ์ หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียก
            หรือใช้แทนแหล่งภูมิศาสตร์ และที่สามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเป็น

            สินค้าที่มีคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ดังกล่าวสอดคล้องกับ
            ความตกลงทริปส์ (Agreement on Trade-Related Aspects of Intellectual Property

            Rights : TRIPs) ซึ่งสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น ผ้าไหมยกดอกลำาพูน ข้าวหอมมะลิ
            ทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยช้าง ทุเรียนนนท์ มะขามหวานเพชรบูรณ์ โดยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์

            ของประเทศไทยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ.
            ๒๕๔๖ การคุ้มครองเป็นไปตามทฤษฎีการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคและทฤษฎีการแข่งขัน

            ทางการค้าที่เป็นธรรมเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมิให้เกิดความสับสนหลงผิดและให้ความเป็นธรรม

                                                             ๑๑
            แก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อมิให้เกิดการแอบอ้างที่ไม่เป็นธรรม   สินค้าที่ได้รับการคุ้มครองจะแบ่ง
            เป็นสินค้าทั่วไปและสินค้าเฉพาะ ได้แก่ ข้าว ไหม ไวน์ และสุรา ตามมาตรา ๒๗ และมาตรา



            ๑๑. ศุภการณ์ สุขต่าย. (๒๕๕๘). ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าและ
                สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำาแหง. หน้า ๒๒.





            72                                                               เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88