Page 6 - บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
P. 6

5


               แก่การแก้ปัญหามากกว่าปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์สามารถแยกสิ่งที่ต้องการศึกษา
               ออกจากสิ่งอื่นๆ แล้วนำมาทดลองเป็นการเฉพาะได้ แต่การแก้ปัญหาเศรษฐศาสตร์ไม่สามารถแยกสิ่งที่
               ต้องการศึกษาออกจากสิ่งอื่นๆ ได้ดังนั้น การตั้งข้อสมมติฐาน (Hypothesis) จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญใน
               การศึกษาเศรษฐศาสตร์ จึงมักพบข้อสมมติที่กำหนดให้ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากสิ่งที่สนใจศึกษาคงที่ไม่

               เปลี่ยนแปลงเสมอ
                              ด้วยเหตุนี้การนำทฤษฎีไปใช้ในทางปฏิบัติผู้ใช้ต้องสังเกตสภาพแวดล้อมว่า สอดคล้องกับข้อ
               สมมติของทฤษฎีหรือไม่เพียงใด ถ้าไม่เหมือนกัน การอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องใช้ความระมัดระวัง

               ให้มากหรือพยายามหาทางแก้ไข ทำให้สภาพที่เกิดขึ้นจริงมีลักษณะใกล้เคียงกับข้อสมมติมากที่สุด เพื่อไม่ให้
               เกิดคำกล่าวที่ว่า “ทฤษฎีนำมาใช้ปฏิบัติไม่ได้” ดังนั้น ผู้ศึกษาเศรษฐศาสตร์จึงต้องให้ความสนใจข้อสมมติของ
               แต่ละทฤษฎีโดยจะต้องทำการศึกษาให้เข้าใจเสียก่อน ซึ่งโดยทั่วไปวิธีการในการศึกษาเศรษฐศาสตร์แบ่งออก
               ได้ 3 วิธี คือ

                              1)  สังเกตจากประวัติศาสตร์ (Historical Method) การสังเกตภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่
               ผ่านมาจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ได้ เพราะประวัติศาสตร์มักจะซํ้ารอยเดิมแต่การใช้วิธีนี้
               อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เนื่องจากสภาพแวดล้อมในอดีตและปัจจุบันไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามการศึกษา
               วิธีนี้ยังมีประโยชน์และนิยมทำกัน

                              2)  วิธีหาผลจากเหตุ (Deductive Method) เป็นการกำหนดข้อสมมติฐาน (Hypothesis)
               เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเป็นไว้ก่อนแล้ว จึงทำการศึกษาพิสูจน์ข้อสมมติฐานโดยทำ
               การสังเกตปรากฏการณ์ และทดลองว่าข้อสมมติฐานนั้นใช้ได้หรือไม่ และทำการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องมา
               ทำการศึกษาผลที่เกิดขึ้นจริงทำซํ้า ๆ หลาย ๆ ครั้ง ถ้าผลส่วนใหญ่ที่ได้จากข้อเท็จจริงตรงกับข้อสมมติฐานที่ตั้ง

               ไว้ ก็แสดงว่าข้อสมมติฐานนั้นถูกต้องสามารถนำมาตั้งเป็นทฤษฎีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ถ้าไม่ตรงก็ยกเลิกไป
                              3)  วิธีหาเหตุจากผล (Inductive Method) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์
               ต่างๆ เฉพาะรายมาวิเคราะห์หาสาเหตุเพื่อสรุปเป็นทฤษฎี เป็นการศึกษาจากเรื่องเฉพาะที่เป็นส่วนย่อยเพื่อ

               สรุปเป็นเรื่องของส่วนรวมหรือใช้เป็นทฤษฎีทั่วไป
                              โดยปกติการศึกษาเศรษฐศาสตร์จะไม่ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นการเฉพาะ
               แต่จะใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกัน เพราะการตั้งข้อสมมติฐานโดยปราศจากเรื่องในอดีตกระทำได้ยาก จะต้องมีการ
               รวบรวมข้อมูลบางอย่างก่อนเพื่อเป็นแนวทางในการตั้งสมมติฐาน และการรวบรวมข้อมูลก็ต้องมีความคิดอยู่
               ก่อนแล้วว่าอะไรมีความสัมพันธ์กัน


               4. หน่วยเศรษฐกิจและวงจรในระบบเศรษฐกิจ

                         หน่วยเศรษฐกิจ (Economic Units) หมายถึง หน่วยที่ทำหน้าที่ทางด้านการผลิต การบริโภค
               และการจำแนกแจกจ่ายสินค้าและบริการที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกคนอยู่ดีกินดี หน่วยเศรษฐกิจของ
               ทุกประเทศไม่ว่าจะอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบใดจะประกอบด้วยภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้แก่ ภาคครัวเรือน
               ภาคธุรกิจ และภาครัฐบาล ซึ่งแต่ละหน่วยเศรษฐกิจจะมีหน้าที่ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

                         1)  ภาคครัวเรือน (Household Sector) มีฐานะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตและผู้บริโภค ใน
               ฐานะที่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ภาคครัวเรือนจะเสนอขายปัจจัยการผลิต ได้แก่ ที่ดิน แรงงาน ทุน และ
               ผู้ประกอบการให้กับผู้ผลิตเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ โดยผู้ผลิตจะจ่ายผลตอบแทนให้กับเจ้าของ
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11