Page 16 - จุลสารฉบับพิเศษ เล่าขานตำนานศาลายา ประจำปี 2563
P. 16
๘ | “กับข้าวกับปลา กับยา”
๑๕ บาท และเพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกให้แก่คนซื้อคนขายก็จะน ากุ้งที่
จับได้มาต้มเป็นกุ้งต้มเค็มขาย ขายเป็นกองกองละ ๒-๓ บาท ส่วนปลาที่ได้
ขายสดโลละ ๓ บาท
ยังมีการจับสัตว์น ้าอีกอย่าง คือ การอ่อยเหยื่อไว้จับกุ้ง วิธีการอ่อย
เหยื่อก็น าดินมาปั้นก้อนขนาดขนมตาควายหรือขนมต้มแล้วคลุกกับร าข้าว
ที่คลุกกับร าข้าวเพราะมีกลิ่นหอม ไว้ล่อกุ้งตะเข็บและกุ้งใหญ่ วิธีจับก็ใช้แหทอด
อย่างกุ้งตะเข็บ วางเหยื่อที่เตรียมไว้จุดละ ๕ ลูก ประมาณ ๑๕ - ๒๐ จุด
พออ่อยจนถึงจุดสุดท้ายก็กลับมาทอดที่จุดแรก สามารถทิ้งช่วงได้ และ
อ่อยเหยื่อซ ้าที่เดิมก็ได้ ส่วนกุ้งใหญ่ โยนเหยื่อที่เตรียมไว้จุดละลูก ประมาณ ๑๒ จุด
พอโยนถึงจุดสุดท้ายต้องรีบมาทอดจุดแรกที่อ่อยไว้ เพราะกุ้งใหญ่กินเร็วมาก
ไม่เหมือนกับกุ้งตะเข็บที่สามารถทิ้งช่วงเวลาได้ จุดไหนดีอาจได้มากกว่า ๑ ตัว
ก็ให้โยนซ ้าแล้วกลับมาทอดใหม่ได้อีกรอบ
นอกจากวิธีการอ่อยเหยื่อแล้วจะใช้วิธีตกกุ้งก็ได้ แต่มีข้อสังเกตว่า
คนตกกุ้งมือต้องนิ่มเบามาก อาจเป็นเพราะเบ็ดที่ใช้ตกกุ้งเป็นเบ็ดมีลักษณะเข็ม
เหมือนไม่มีเงี่ยง พอกุ้งกินเบ็ด ถ้ามือไม่เบากุ้งจะหลุดจากเบ็ด
บางช่วงอาจมีกุ้งขึ้นมาให้จับได้ตามริมตลิ่งหรือว่ายอยู่ในน ้า เรียกว่า
หน้ากุ้งมัว มีช่วงหน้าน ้าลด กุ้งมัวเป็นยังไง ก็เกิดจากน ้าเน่าที่มาจากท้องนาแล้ว
ไหลลงในแม่น ้า พอน ้าเน่ามารวมกับน ้าที่ไหลขึ้น (น ้าดี) กุ้งก็จะเมา แล้วขึ้นมาให้จับ
วิธีจับปลาอีกชนิดหนึ่ง คือ การตกปลาหมอ ตกเพื่อน ามาท าเป็นที่ล่อ
ปลาช่อน วิธีคือน าปลาหมอมาขังไว้ให้เปรียว ผอมหัวโตเวลาเกี่ยวเบ็ดจะ