Page 46 - จุลสารฉบับพิเศษ เล่าขานตำนานศาลายา ประจำปี 2563

๓๘ | “กับข้าวกับปลา กับยา”

อธิการบดี ก็ได้ให้พื้นที่มาประมาณ ๑๒ ไร่ คณะเภสัชศาสตร์ก็เริ่มปลูกต้นไม้ที่

ต้องใช้ หลังจากนั้นก็เริ่มการส ารวจสมุนไพรในต่างจังหวัด และน ามาปลูก เมื่อ
สมุนไพรเพิ่มมากขึ้น ทางคณะฯ ก็ขอพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น ๓๘ ไร่ ซึ่งตอนนั้นพื้นที่มี

ขนาดเล็ก ท าให้ดูแลง่าย กิจกรรมก็เป็นที่รู้จักจนได้รับรางวัลเป็นโครงการดีเด่น

ด้านอนุรักษ์สมุนไพรของส านักนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้รับการยกระดับเป็น
้
๑๔๐ ไร่ พอพื้นที่ใหญ่ขึ้น ความคาดหวังก็มากขึ้น อุทยานก็พยายามท าให้พืนที่
ที่เหมาะส าหรับบุคคลทุกกลุ่ม โดยพื้นที่ทั้งหมดจะแบ่งเป็นแปลงย่อยๆ คือ

อาคารนิทรรศการ โถงกลาง ห้องบรรยาย ด้านหน้ามีลานนานาสมุนไพรที่ปลูก
พืชล้มลุกอยู่ในบ่อ ข้อดีของลานนานาสมุนไพรคือ หลังฝนตกยังสามารถเดินไปดู

ต้นไม้ได้ ข้างหลังจะมีลานสมุนไพรเพื่อสุขภาพที่น าสมุนไพรที่วิจัยเรียบร้อยแล้ว

ว่าใช้ได้ไม่มีอันตราย ใช้ในครัวเรือนหรือน ามาท ายาง่ายๆ ในบ้านได้ บริเวณนี้มี
เรือนกลุ่มนึงคือ เรือนหมอยา มีแพทย์แผนไทย ในอนาคตจะมีตรวจแพทย์แผนไทย

การนวด อีกด้านมีแปลงใหญ่ๆ บริเวณนี้จะรวบรวมไม้เลื่อย และมีแปลงเล็กๆ

ที่อยากน าเสนอและเชื่อว่ามหาวิทยาลัยมหิดลเป็นที่แรกที่จัดแปลงสมุนไพร

เฉพาะส าหรับผู้พิการทางร่างกาย สายตา และการได้ยิน ส าหรับผู้พิการทาง
สายตาจะมีเส้นทางเดินและมี QR Code ที่ออกมาเป็นเสียง ถ้าเป็นผู้พิการ

ทางการได้ยิน เมื่อส่อง QR Code จะออกมาเป็นตัวหนังสือง่ายๆ และมีพื้นที่

ส าหรับรถเข็น ทั้งหมดนี้คือพื้นที่ทั้งหมดของอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

กลับมาที่เรื่อง “สมุนไพร” ก่อนที่จะพูดถึงต าราของวัดมะเกลือที่

ศาลายา จะขออธิบายก่อนว่าต ารายาไทยและการแพทย์แผนไทยมองร่างกาย

อย่างไร ถ้าพิจารณาจริงๆ แล้วจะเห็นว่าการแพทย์ทางเลือกที่ใช้สมุนไพรมีอยู่
๒ ส่วน คือ “การแพทย์แผนไทย” กับ “การแพทย์พื้นบ้าน”