Page 29 - 21102
P. 29
๒๐
ั
่
ี
ี
่
ั
ั
ั
นอกจากน องคกรภาครฐหลายแหงไดรบเอาหลกเกณฑทเกยวของกบผลประโยชนขดกน
ั
ั
้
ี
ั
ั
ิ
ิ
ํ
็
ํ
(Conflict of Interest) และขอจากดหลงการเลกจางมากาหนดไวในประมวลจรยธรรมดวย ประเดน
่
ั
้
ั
ิ
ั
่
ั
ั
่
ึ
ี
ี
้
่
ื
ื
ื
้
ผลประโยชนขดกนถอวาเปนปญหาพนฐานทพบไดบอยครงในองคกรภาครฐซงจะเกดขนเมอเจาหนาทรฐ
ึ
ี
่
้
ํ
ํ
ู
อยในตาแหนงทสามารถเออประโยชนและ/หรอไดรบผลประโยชนจากการกระทาหรอไมกระทา
ื
ื
ั
ื
ํ
ื
ิ
ั
่
หรอตดสนใจในหนาทของตนเอง ตวอยางเชน เจาหนาทรฐตดสนใจใหความชวยเหลอญาตของตน
ื
ิ
ั
ี
ิ
ั
่
ี
ั
ี
ึ
่
เพอคดเลือกเขาทางานในองคกร หรอผพพากษาอาจมผลประโยชนเกยวกบการเงนกบคความฝายหนง
ี
่
ํ
่
ั
ื
ิ
ั
ู
ิ
ู
ื
ั
ั
ิ
่
ี
ู
ั
ึ
ั
่
ฝายใดในคด ซงในความเปนจรงเจาหนาทรฐควรตองเปดเผยขอมลผลประโยชนขดกนของเขาและถอนตว
ี
ั
่
ื
ิ
ั
็
ื
จากการเขาไปมีบทบาทในการตดสนใจในเรองเหลานน สวนประเดนเรองขอจากดหลงการเลกจาง
ิ
ํ
ั
่
ั
ั
้
ู
ั
่
่
ั
ี
ั
ี
่
เปนอกมาตรการหนงทจะชวยปองกนผลประโยชนขดกน ตวอยางเชน อดตเจาหนาทรฐผเคยทางานใน
ั
ั
ี
ึ
ี
ํ
ั
ั
ู
ู
ั
ํ
ิ
่
ี
ิ
ั
ั
ื
ั
สวนของการจดซอจดจางใหองคกรภาครฐควรถกหามมใหทางานใหกบบรษททเปนคสญญากบองคกร
้
ั
่
ั
ั
่
ี
่
ี
ิ
้
ั
่
ึ
่
ี
้
ั
ี
ี
่
ี
ภาครฐในชวงเวลาหนงหลงจากทเจาหนาทคนนนไดพนหนาท มเชนนน อาจมความเสยงทเจาหนาท ี ่
ิ
ั
้
ื
ิ
ั
ั
ิ
้
้
ื
ั
ผนนจะใชอทธพลในการตัดสนใจในการจัดซอจดจางในลกษณะเออประโยชนตอบรษทซงเขาอาจตงใจ
่
ึ
ู
ั
ิ
้
ี
่
ิ
ั
ั
่
้
ู
จะทํางานดวยในอนาคต และบริษทอาจจะพยายามติดสนบนเจาหนาทรฐผนนโดยการเสนองานทีม ี
ั
ั
ู
คาตอบแทนสงใหเพอใหไดสมปทานหรอสญญากบภาครฐ ซงในทางปฏบตแลว เจาหนาทรฐไมไดถก
ิ
ู
ิ
ั
ั
่
่
ั
ึ
ื
่
ื
ั
ั
ี
ี
ั
ิ
่
ี
ื
ั
ิ
ี
ิ
ี
่
ั
้
ี
ตกรอบใหปฏบตตามจรรยาบรรณวชาชพเทานน แตมกฎหมายและระเบยบปฏบตอนเขามาเกยวของ
ิ
ิ
ิ
ั
ุ
ั
มากมายทงในดานการเงน สขภาพและความปลอดภย เปนตน
้
ั
สาหรบในประเทศไทย ประเด็นเรืองผลประโยชนขดกนถอเปนหลักจริยธรรมทีสาคญ
ํ
ั
ื
ํ
่
ั
ั
่
ุ
่
ี
ํ
ั
ั
ู
ู
่
่
ซงเปนเหตผลหนงทถกกลาวถงในสงคมไทยมาโดยตลอดจนนาไปสการจดทาราง พ.ร.บ.วาดวย
ึ
ํ
ึ
ึ
ุ
ึ
ั
่
ั
่
ความผิดเกยวกบการขัดกนระหวางผลประโยชนสวนบคคลกับประโยชนสวนรวม พ.ศ. ... ซงอยระหวาง
ี
ู
ิ
ั
ู
ั
ิ
ั
ั
ั
การพจารณาของรฐสภา และไดบญญตไวในรฐธรรมนญแหงราชอาณาจกรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ หมวด ๙
ั
ั
ึ
ั
ึ
ั
ั
วาดวยการขดกนแหงผลประโยชน มาตรา ๑๘๔ ถง ๑๘๗ ซงบงคบใชกบสมาชกสภาผแทนราษฎร
ู
่
ิ
ิ
ํ
ี
และรฐมนตรททาหนาทบรหารประเทศ และ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจรยธรรม พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๕
ี
่
ิ
่
ั
ี
ํ
ั
ู
ผบงคบบญชาหรือผนาองคกรเปนบคคลหนึงทมความสําคญในการเสริมสรางความซือตรง
ุ
่
ั
ี
ั
่
่
ู
ี
ั
็
ุ
ี
่
ู
และจริยธรรมภาครัฐในองคกร หากผนาเปนบคคลทไมมคณธรรมจริยธรรมเสียแลวกเปนไปไดวา
ํ
ุ
ี
ั
่
ั
้
ุ
ี
ิ
่
ี
ู
ั
ิ
ตวเจาหนาททอยในองคกรเหลานนอาจไมประพฤตปฏบตตวใหมคณธรรมตามไปดวย มนกวชาการ
ั
ิ
ั
ี
ี
ิ
ั
้
่
ั
หลายฝายไดตงขอสงเกตวา ประมวลจริยธรรมนีไมควรจํากดเพียงแคเจาหนาทีรฐ หากแตควรจะ
ั
ั
้
นาไปใชกบนกการเมองดวยหรอไม เชน นกการเมองควรตองเปดเผยบญชทรพยสนและผลประโยชน
ํ
ื
ื
ี
ื
ั
ั
ั
ิ
ั
ั
ตางๆ กอนเขารบตาแหนง เปนตน ซงไมคอยพบเหนมากนกในหลายประเทศ สวนในประเทศไทยตาม
ั
่
ึ
ํ
ั
็
ิ
ุ
ั
พ.ร.บ.ประกอบรฐธรรมนญวาดวยการปองกนและปราบปรามการทจรต พ.ศ.๒๕๖๑ ไดกาหนดให
ู
ํ
ั
ํ
ั
ั
ี
ั
ู
ิ
่
เจาหนาทรฐระดบสงตองยนบญชทรพยสนกอนเขารบตาแหนง
ั
ั
่
ี
ื
ี
่
ั
่
ประเด็นสาคญอกเรืองหนึงคอ การบังคบใชและความรับผดชอบในกรณีทมการฝาฝน
ั
ิ
ํ
ื
ี
ี
่
ั
ื
ิ
ั
ํ
ั
ึ
ื
จรยธรรม ปญหาอาจเกดขนไดเมอคณคาทางจริยธรรมนนเปนแคตวหนงสอหรอเปนแคหลกคาสอน
ุ
ื
่
้
้
ิ
ั