Page 35 - 21102
P. 35
๒๖
ั
ี
ํ
่
ิ
ั
ํ
ี
้
่
ี
ตารวจ เปนตน บทเรยนนมงทจะตอบคาถามทนาสนใจ เชน ศลธรรมเชงบทบาท ความขดแยงกบ
ี
ี
ุ
็
ี
ิ
ั
ี
้
ิ
ิ
ิ
ั
ิ
ุ
ั
จรยธรรมสวนบคคล การนาประมวลวชาชพไปใชในทางปฏบต วชาชพทงหลายมกจะมประเดนทาง
ํ
ี
้
ึ
ิ
ิ
จรยธรรมเกดขนตลอดเวลา
Ô
Ô
Ô
Ô
Ø
Õ
¨Ã¸ÃÃÁʋǹº¤¤Å ¨Ã¸ÃÃÁધ·ÄÉ®ÕáÅШÃÔ¸ÃÃÁǪҪ¾
ี
่
่
ี
่
ตามทไดอธบายไปในบทเรยนที ๑ จรยธรรมหมายถึง ความพยายามทีจะเขาใจถึงธรรมชาต ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ของคุณคาความเปนมนุษย และมนุษยเราควรจะมีชวตอยอยางไรและอะไรเปนสวนประกอบของ
ู
่
่
ี
ํ
ึ
่
การกระทาทถกตอง (Norman, 1998: หนา ๑) ซงความหมายดงกลาวจะชวยใหเขาใจแนวคดเกยวกบ
ั
ู
ั
ิ
ี
ุ
จรยธรรมสวนบคคลซงเปนคณคาและมาตรฐานทีคนทวไปทกาหนดวาคนเราจะแสดงออกอยางไร
ึ
ิ
ั
่
ํ
ุ
ี
่
่
่
ั
ิ
ี
ิ
ื
่
้
ู
ิ
ในชวตประจาวน จรยธรรมสวนบคคลมกถกเขาใจวาเปนหลกการเบองตนวาส่งใดผดสงใดถกในฐานะ
ั
ั
ํ
ู
ุ
ิ
ิ
ุ
้
่
่
ั
ี
่
ึ
่
ั
ทเปนมนุษยปถุชนธรรมดา ซงจริยธรรมสวนบุคคลนีจะปรับใชกบประเด็นทวไปทีหลากหลายรวมถึงใน
ั
ิ
ชวตประจาวน เชน เราจะมปฏสมพนธกบครอบครวและเพอนอยางไร เราควรปฏบตตอคนทวไปอยางไร
ิ
ื
ั
่
ั
ั
ี
่
ี
ั
ํ
ั
ิ
ั
ิ
่
ื
่
ั
ั
ิ
ํ
ี
หรอกลาวอกนยหนึง จรยธรรมสวนบุคคลประกอบไปดวยคุณคาและมาตรฐานทีเปนตวกาหนดวา
ู
ั
่
ควรแสดงออกอยางไรซึงไมเพยงแตเปนความชอบหรือความเห็นสวนบุคคลทีเราคิดวาถกตองเทานน
่
ี
้
ี
ิ
ื
่
ู
ี
่
ี
่
ี
แตตองมองคประกอบทางจรยธรรมทวางอยบนความเชอทมหลกการอกดวย (Principled Belief)
ี
ั
ี
ั
่
ี
่
ั
ั
้
ิ
ุ
ี
่
จรยธรรมสวนบคคลมทมาจากหลายแหลงซึงบางครังสมพนธกบประสบการณทแตละ
บคคลไดรบหรอพบเหนมา เชน การอบรมเลยงดของครอบครว ศาสนา วฒนธรรม บรรทดฐานทาง
็
ู
ั
ื
้
ั
ั
ี
ุ
ั
ิ
ุ
่
ิ
ิ
ิ
สงคมและกลมเพอน อยางไรกตาม จรยธรรมสวนบคคลมกจะรวมเอาจรยธรรมเชงทฤษฎหลายแนวคด
ี
ั
ั
็
ุ
ื
ิ
ั
ํ
ี
่
ู
่
ื
ั
ิ
ั
ั
ิ
เขาไวดวยกน จรยธรรมเชิงทฤษฎเปนชดคาสอนทถกพฒนาโดยนักปรชญาเพออธบายวาการตดสนใจ
ี
ุ
ี
ิ
ู
ิ
ิ
ทางจรยธรรมทีถกตองควรเปนอยางไร ตวอยางเชน แนวคดประโยชนนยม (Utilitarianism) มฐานคด
ิ
่
ั
ู
ึ
่
้
ิ
ี
อยทการประเมนผลลพธของการกระทาทจะเกดขน แนวคดธรรมจรรยา (Deontology) ทมฐานคดอย ู
ิ
ี
่
ั
ิ
่
ี
ิ
ี
ํ
ิ
ิ
ี
่
ิ
ุ
็
ทหลกการและหนาทแมวาจะกอใหเกดผลทางลบกตาม และแนวคดจรยศาสตรเชงคณธรรม (Virtue
่
ี
ั
ิ
ี
Ethics) ทมฐานคดอยทคณลกษณะทดทสมบรณแบบของตวผกระทามากกวาผลลพธของการกระทา
ั
ี
ุ
ี
ํ
ู
ู
ั
่
่
ิ
ี
ี
่
ี
ั
่
ู
ํ
ี
่
ํ
ั
ื
หรอหลกการทเปนตวกาหนดการกระทานน
ั
้
ํ
ั
ั
้
ึ
ิ
ั
ุ
ี
ั
ี
่
้
ั
จรยธรรมวชาชพจงเกยวของกบการจดตงคณคา หลกการและมาตรฐานทตงอยบน
ี
่
ั
ู
ิ
ํ
ิ
ั
ิ
ี
ความรบผดชอบและการกระทาของวชาชพ (Davis, 2003) และเพอจะเขาใจวาวชาชพ (Profession)
ื
ิ
่
ี
ั
ิ
ี
ี
มความเหมอนหรอแตกตางจากอาชพ (Occupation) อยางไร โดยทวไปอาชพกบวชาชพสามารถถกใช
ื
่
ั
ี
ู
ื
ี
ี
ี
ํ
ิ
แทนทกันไดแตมความหมายทตางกน อาชพเปนงานทบางคนทาเพอเลยงชพ ในขณะทความเปนวชาชพ
่
่
่
ี
ี
ั
ื
่
ี
ี
ี
ี
้
ี
่
ิ
ิ
ั
ั
่
ี
ี
ึ
ี
ุ
่
จะหมายถงบคคลทไดรบการฝกฝนมากกวาสมาชกขององคกรวชาชพตองผานการทดสอบทรบรองวา
ื
ิ
ี
ุ
ิ
ี
ู
ั
ิ
้
บคคลนนสามารถปฏบตงานแบบมออาชพ ความเปนมออาชพอยภายใตระเบยบกฎเกณฑทางวชาชพ
ั
ื
ี
ี
ั
ู
ั
ทเมอนาไปใชแลวจะเปนมาตรฐานเดยวกน เชน บรรณารกษจดระบบหองสมดเพอใหบรการแกผมาใช
่
ื
ุ
ํ
ี
ิ
ี
่
่
ั
ื
ู
ุ
็
บรการตามมาตรฐานสากล แพทยจดระบบการรกษาผเจบปวยเหมอนกนในทกโรงพยาบาล (Weil,
ั
ื
ิ
ั
ั
ั
ั
ั
่
ิ
ู
ี
ู
2008) และตารวจใหบรการรบแจงความจากผเสยหายในรปแบบเดยวกนทวประเทศ เปนตน
ํ
ี