Page 114 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 114
ค�ำปองแสด
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
มีถิ่นก�ำเนิดในอเมริกำเขตร้อน เป็นไม้ประดับ ผลใช้ท�ำเป็นสีผสมอำหำรและ คำาป่า
เครื่องอุปโภคหลำยชนิด เปลือกหุ้มเมล็ดให้สำรสีแดง bixa ละลำยในน�้ำมันได้ ใช้ Reinwardtia indica Dumort.
ท�ำสีย้อม เมล็ดบดใช้ระบำยเป็นสีทำร่ำงกำยและเป็นเครื่องปรุง
วงศ์ Linaceae
สกุล Bixa L. มี 5 ชนิด พบในอเมริกาเขตร้อน ชื่อสกุลมาจากภาษาบราซิลเลี่ยน ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 1 ม. หูใบขนำดเล็ก ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน รูปไข่กลับ รูปรี หรือ
“biche” ที่เรียกต้นไม้ชนิดนี้ ส่วนคำาระบุชนิดตั้งตามนักสำารวจลุ่มน้ำาอเมซอน รูปใบหอก ยำว 1-9 ซม. ปลำยแหลมหรือมน มักมีติ่งแหลม ขอบเรียบ ก้ำนใบยำว
ชาวเสปน ในช่วงศตวรรษที่ 16 Francisco de Orellana 0.5-2.5 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อกระจุกสั้น ๆ ตำมซอกใบ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ
เอกสารอ้างอิง รูปใบหอกแคบ ยำว 1-1.5 ซม. ติดทน ดอกสีเหลือง เส้นกลีบช่วงโคนสีแดง มี
Backer, C.A. (1951). Bixaceae. In Flora of Malesiana Vol. 4: 239-241. 4-5 กลีบ รูปไข่กลับ ยำว 1.5-3 ซม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดใต้รังไข่ โคนเชื่อมติดกัน
Yang, Q. and M.G. Gilbert. (2007). Bixaceae. In Flora of China Vol. 13: 71. มี 2-5 ต่อม ก้ำนชูอับเรณูยำวประมำณ 1.3 ซม. เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 5 อัน รูปลิ่มแคบ
รังไข่เกลี้ยง มี 3-4 ช่อง แต่ละช่องมี 2 ช่องย่อย มีออวุลเม็ดเดียว เกสรเพศเมีย
3-4 อัน ยำว 0.7-1.8 ซม. ผลแห้งแตก รูปรีกว้ำงเกือบกลม แตกเป็น 6-8 ส่วน
เมล็ดรูปคล้ายไต มีปีกบาง
พบที่ปำกีสถำน ภูฏำน เนปำล อินเดีย จีน พม่ำ ลำว เวียดนำม ในไทยพบทำง
ภำคเหนือที่เชียงรำย เชียงใหม่ ล�ำปำง ขึ้นตำมที่โล่งในป่ำสนเขำและป่ำดิบเขำ
ควำมสูง 600-2000 เมตร ในจีนนิยมปลูกเป็นไม้ประดับริมรั้ว
ค�าเงาะ: ช่อดอกแบบช่อแยกแขนงออกที่ปลำยกิ่ง บำนทีละ 1-2 ดอก กลีบดอกขนำดไม่เท่ำกัน เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก สกุล Reinwardtia Dumort. มีเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุลตั้งตาม Caspar G.C.
ผลแห้งแตกมีขนแข็งสีแดงหนำแน่น (ภำพ: cultivated - SSiI)
Reinwardt (1773-1854) ผู้ก่อตั้งสวนพฤกษศาสตร์โบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย
คำาปองแสด เอกสารอ้างอิง
Ridleyandra flammea (Ridl.) A. Weber Larsen, K. (1997). Linaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(3): 195-196.
วงศ์ Gesneriaceae Liu, Q. and L. Zhou. (2008). Linaceae. In Flora of China Vol. 11: 34.
ชื่อพ้อง Didissandra flammea Ridl.
ไม้ล้มลุก โคนมีเนื้อไม้ สูงได้ถึง 10 ซม. มีขนหนำแน่น ใบเรียงตรงข้ำม รูปไข่กลับ
หรือแกมขอบขนำน ยำว 5-18 ซม. ปลายมนกว้าง โคนมนหรือเว้าตื้น ก้ำนใบยำว
1.5-5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ก้ำนช่อยำว 6-10 ซม. มี 2-3 ดอก ก้ำนดอก
ยำวประมำณ 5 มม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แฉกลึก รูปใบหอก ยำว 1.5-2 ซม. ดอกสีแดง
อมส้ม รูปปำกเปิด หลอดกลีบดอกยาว 4-6 ซม. กลีบบน 2 กลีบ กลีบล่ำง 3 กลีบ
รูปรีกว้ำง ยำวประมำณ 5 มม. เกสรเพศผู้อันสั้น 2 อัน อันยำว 2 อัน ติดที่โคนหลอด
กลีบดอกด้ำนใน ก้ำนชูอับเรณูยำว 1.2-2 ซม. อับเรณูแต่ละคู่เชื่อมติดกัน รังไข่มี
ขนต่อมหนาแน่น ก้ำนเกสรเพศเมียยำวได้ถึง 3 ซม. ยอดเกสรเพศเมียแผ่บำนออก
ผลสดหรือแห้ง แตกด้านบน รูปแถบ ยำว 5-6 ซม. มีขนต่อมกระจำย
พบทำงตอนบนคำบสมุทรมำเลเซียและภำคใต้ตอนล่ำงของไทยที่นรำธิวำส
ขึ้นบนก้อนหินหรือพื้นดินตำมที่ลำดชันใกล้ล�ำธำรในป่ำดิบชื้น ควำมสูงระดับต�่ำ ๆ
สกุล Ridleyandra A. Weber & B. L. Burtt เป็นสกุลที่แยกมาจากสกุล Didis- ค�าป่า: ใบเรียงเวียน มีติ่งแหลมดอกออกเดี่ยว ๆ กลีบเลี้ยงรูปใบหอกแคบ กลีบดอกรูปไข่กลับ (ภำพ: ดอยเชียงดำว
sandra มีกว่า 20 ชนิด พบที่คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว และภาคใต้ตอนล่าง เชียงใหม่ - RP)
ของไทยซึ่งมี 3 ชนิด อีก 2 ชนิด คือ แววนกแว่น R. latisepala (Ridl.) A. Weber คำามอกหลวง
หลอดกลีบดอกสีม่วง และ R. kerrii A. Weber หลอดกลีบดอกสีขาว ชื่อสกุลตั้งตาม
นักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ Henry Nicholas Ridley (1855-1956) Gardenia sootepensis Hutch.
วงศ์ Rubiaceae
เอกสารอ้างอิง
Weber, A. and B.L. Burtt. (1997). Revision of the genus Ridleyandra (Gesneria- ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ยอดมีน�้ายางเหนียวสีเหลือง มีขนสั้นนุ่มตำมหูใบ
ceae). Beitrage zur Biologie der Pflanzen 70: 225-273. แผ่นใบด้ำนล่ำง และก้ำนใบ หูใบเชื่อมติดกันเป็นวงรอบกิ่ง ยำว 0.5-1 ซม. ร่วงเร็ว
ทิ้งรอยชัดเจน ใบเรียงตรงข้ำม รูปรีถึงรูปขอบขนำน หรือแกมรูปไข่กลับ ยำว
10-30 ซม. ก้ำนใบยำว 0.5-1.2 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ที่ซอกใบใกล้ปลำยกิ่ง
ก้ำนดอกยำว 1-1.5 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยำว 1-2 ซม. ปลำยแยกเป็นแฉกตื้น ๆ
5 แฉก แยกเกือบจรดโคนด้านเดียว ดอกสีเหลืองหรือขาว หลอดกลีบดอกยำว
5-7 ซม. ปลำยแยกเป็น 5 กลีบ รูปไข่กลับ ยำว 3-5 ซม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดใต้ปำก
หลอดกลีบดอกระหว่ำงกลีบดอก ไร้ก้ำนชูอับเรณู เกสรเพศเมียยื่นพ้นปำกหลอด
กลีบดอก ยอดเกสรรูปกระบอง ผลสดมีหลายเมล็ด รูปรี ยำว 2.5-5 ซม. มี 5-6 สัน
พบที่จีนตอนใต้ พม่ำ ลำว ในไทยพบทำงภำคเหนือ ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภำคตะวันออก ขึ้นตำมป่ำเต็งรัง และป่ำเบญจพรรณ ควำมสูงถึงประมำณ
1500 เมตร บำงครั้งพบเป็นไม้ประดับ
สกุล Gardenia L. มีมากกว่า 60 ชนิด แต่อาจมีได้ถึง 250 ชนิด ในไทยมีพืชพื้นเมือง
มากกว่า 10 ชนิด และมีหลายชนิดพบเป็นไม้ประดับ ที่พบทั่วไป ได้แก่ พุดซ้อน
G. jasminoides J. Ellis มีถิ่นกำาเนิดในจีนและไต้หวัน และพุดน้ำาบุษย์ G. carinata
ค�าปองแสด: ล�ำต้นมีขนหนำแน่น ใบเรียงตรงข้ำม ปลำยมนกว้ำง ก้ำนใบสั้น ช่อดอกแบบช่อกระจุก ดอกรูปปำกเปิด Wall. ex Roxb. หลอดกลีบดอกยาว พบทางภาคใต้ ชื่อสกุลตั้งตามนักธรรมชาติ
ผลรูปแถบ (ภำพบน: สุคิริน นรำธิวำส - MP); แววนกแว่น: หลอดกลีบดอกสีม่วง ผลสด แตกด้ำนบน (ภำพล่ำง: วิทยาชาวอเมริกันที่เกิดในสกอตแลนด์ Alexander Garden (1730-1791)
นรำธิวำส - MP)
94
59-02-089_001-112 Ency_new5-3 i_Coated.indd 94 3/5/16 4:51 PM