Page 110 - Publicationa15
P. 110
102 พลต�ำรวจเอก นิสสัย บุญศิริ
มาตราที่ 73 บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร ช่วยเหลือในการป้องกัน
และบรรเทาภัยพิบัติสาธารณะ เสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษา
อบรม พิทักษ์ ปกป้อง สืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น
และอนุรักษ์ทรัพยากรของชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
มาตราที่ 74 บุคคลผู้เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยราชการ
หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ มีหน้าที่ด�าเนินการ
ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม อ�านวยความสะดวก
ให้บริการประชาชนตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารบ้านเมืองที่ดี
ในการปฏิบัติหน้าที่และในการปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน บุคคล
ตามวรรคหนึ่ง ต้องวางตนเองเป็นกลางทางการเมือง...
จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่มีบทบัญญัติเรื่อง
“หน้าที่” ของพลเมืองไว้ในระดับพอประมาณ บางท่านอาจมีความเห็นว่า
มีเนื้อหาที่น้อยเกินไปไม่เหมาะสม และได้สัดส่วนกับบทบัญญัติเรื่องสิทธิ ซึ่ง
รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันได้เขียนไว้อย่างละเอียดมาก ในขณะที่บางท่านอาจ
เห็นว่าเรื่องของ “หน้าที่” นี้เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญควรบัญญัติไว้แต่เพียงเป็น
พิธีก็พอ เพราะเป็นเรื่องของจิตส�านึกของพลเมืองที่ต้องอาศัยกลไกอื่นๆ
ช่วยสร้าง ช่วยในการปลูกฝัง และอบรมกล่อมเกลา
อย่างไรก็ดี หากวิเคราะห์ในเชิงของรูปแบบของการเขียนแล้ว จะเห็น
ได้ว่า การเขียนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เฉพาะ
ในส่วนนี้ มีข้อที่ควรวิจารณ์ 3 ประการ กล่าวคือ
หนึ่ง รัฐธรรมนูญได้ใช้ค�าว่าบุคคล ซึ่งเป็นการใช้ทั่วๆ ไป โดยไม่มีการ
แยกแยะ หรือระบุว่า เป็นเรื่องของ “หน้าที่” ของพลเมืองของรัฐและสังคม
สมัยใหม่ ซึ่งมีส�านึกและมีพันธะกิจที่สูงกว่าราษฎร หรือประชาชน หรือบุคคล
โดยทั่วไป
สอง ในแง่ของเนื้อหามีการระบุหน้าที่ของพลเมืองไว้น้อยเกินไปและ
ไม่ครอบคลุม เช่น ไม่มีหน้าที่ของพลเมืองที่เกี่ยวข้องกับจิตอาสา หรืองาน
อาสาสมัคร ไม่มีหน้าที่ของพลเมืองในการดูแลครอบครัว และบุพการี ฯลฯ รวมทั้ง
การที่ไม่มีบทลงโทษ หรือไม่เปิดให้กลไกของศาลเข้ามาพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
_17-0315(091-106)6.indd 102 4/27/60 BE 11:53 AM