Page 105 - Publicationa15
P. 105
หน้าที่พลเมืองกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 97
“สังคม” จึงไม่ใช่สิ่งที่แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
ที่กล่าวมาข้างต้นจะมีความแตกต่างจากรัฐและสังคมสมัยใหม่ เนื่องด้วย
รัฐและสังคมสมัยใหม่มีความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การศึกษา การ
คมนาคมสื่อสาร และการเพิ่มจ�านวนของประชากร ประชาชนจึงไม่อาจเข้าไป
บริหารประเทศได้โดยตรง จึงได้มีการสร้างสรรค์ระบอบการปกครองอย่างใหม่
ที่เรียกว่าระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน และมักเป็นระบอบตัวแทนที่มี
การผูกขาดอ�านาจโดยจากชนชั้นน�าการปกครอง ซึ่งยอมรับว่าราษฎรเป็น
ส่วนประกอบหนึ่งของรัฐเท่านั้น ส่วนพื้นฐานทางความคิดที่ว่าราษฎร ซึ่งต่อมา
ได้คลี่คลายจนกลายเป็นพลเมือง จะพึงมีสิทธิเสรีภาพและ “หน้าที่” อะไร อย่างไร
ในระดับที่มากหรือน้อยเพียงใด ก็คงขึ้นกับกลไกของรัฐและลักษณะของ
วัฒนธรรมของสังคมสมัยใหม่นั้นๆ จะก�าหนดและพัฒนาขึ้นร่วมกัน ดังจะกล่าว
ต่อไปข้างหน้า
มโนทัศน์ว่าด้วยหน้าที่พลเมืองในรัฐและสังคมสมัยใหม่
มโนทัศน์ว่าด้วยหน้าที่พลเมืองในรัฐสมัยใหม่ (Modern state) หรือ
รัฐ-ชาติ (Nation-state) ซึ่งเป็นเบ้าหลอมของการก่อก�าเนิดและกล่อมเกลา
ให้เกิดส�านึกความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพลเมืองของทุกรัฐ-ชาตินั้น
อาจกล่าวได้ว่าได้เริ่มขึ้นในโลกตะวันตกที่ปรากฏขึ้นภายหลังการปฏิวัติทาง
ภูมิปัญญา และปฏิวัติประชาธิปไตยกระฎุมพีในประเทศสหราชอาณาจักร
ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศฝรั่งเศส
วิถีชีวิตของขุนนางและเจ้าศักดินาเดิมจะมีความแตกต่างจากวิถีชีวิตของ
“พลเมือง” ซึ่งค่อยๆ ก่อตัวเป็นชนชั้นกลางและเป็นเสรีชน ในขณะที่บรรดา
ขุนนางและเจ้าศักดินาด�าเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยเหล่าไพร่และทาสที่คอยรับใช้
ไม่ด�าเนินกิจการทั้งหลายด้วยตนเอง และเป็นไปในลักษณะของพิธีกรรมและ
พิธีการตรงข้ามกับในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างพวกกระฎุมพี ชนชั้นกลาง
และของพวกพลเมืองที่มีลักษณะปลดปล่อยให้แต่ละบุคคลแสดงศักยภาพหรือ
ความสามารถ คือ ท�าด้วยตนเองอย่างเต็มก�าลัง อีกทั้งมีลักษณะเป็นกระท�า
แบบสัญญา มีการตอบแทนเป็นด้วย และมุ่งไปสู่ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
_17-0315(091-106)6.indd 97 4/27/60 BE 11:53 AM