Page 12 - Publicationa15
P. 12
4 ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม
จ�าเลยชนะ โจทก์แพ้ โจทก์ก็ไม่พอใจ จนโจทก์และจ�าเลยต่างพอใจ คนอื่น
คนนอกก็อาจจะไม่พอใจ นักวิชาการอ่านค�าวินิจฉัย ก็อาจจะไม่พอใจ เขาอาจ
วิพากษ์วิจารณ์ต่อไปได้ เพราะฉะนั้นถ้าคิดเสียว่า มันเป็นเช่นนั้นเองและจง
อยู่ด้วยความอดทนอดกลั้นต่อไป ก็พอจะอยู่ได้และวันหนึ่งมันก็ผ่านพ้นไป ไปดู
ในประวัติการณ์ของการตัดสินคดีรัฐธรรมนูญทุกประเทศในโลกก็เคยประสบ
ปัญหาอย่างเดียวกันทั้งนั้น ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกานั้นเคยถูกขว้างปาเพราะ
ตัดสินคดีหนึ่งว่า กฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ หรือการกระท�าของเจ้าหน้าที่
ขัดรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งเดือดร้อนต้องอพยพ น�าประธานศาล น�าผู้พิพากษา
ในศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา หลบหนีภัย ไต่บันไดลิง กว่าจะออกมาได้
ทุลักทุเล และวันนั้นก็ผ่านไปเมื่อมีคดีใหม่ ศาลตัดสินคดีใหม่ พวกที่ไม่พอใจ
ในคดีเก่าก็เกิดพอใจในคดีหลัง พวกที่เคยพอใจมาแล้ว ก็เกิดไม่พอใจขึ้นมา
มิตรมาเป็นศัตรู ศัตรูกลายเป็นมิตร มันเป็นเช่นนั้นเอง ทั้งหมดที่ยกมานี้ เจตนา
เพื่อต้องการให้ก�าลังใจ ซึ่งแน่นอนท่านก็คงจะต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรอีก
พอสมควร ทั้งในส่วนของตัวบุคคล ในส่วนคุณภาพของค�าพิพากษา ในส่วนของ
วิธีพิจารณา ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ ความเข้าใจและอื่นๆ
เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณค่าของสถาบัน “ศาลรัฐธรรมนูญ” อยู่ตรงที่ว่าช่วย
แก้ปัญหาในทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตในทางการเมือง หรือมิฉะนั้น
ก็เป็นการแก้วิกฤตการเมืองอันเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่ชัดเจนของถ้อยค�า
ในกฎหมาย ถ้าจะให้รวมความสรุปต่อไป ต้องสรุปบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ
อย่างที่ฝรั่งเขาใช้ค�าว่า To uphold the Rule of Law แปลเป็นไทยก็คือ เพื่อที่
ธ�ารงรักษาไว้ซึ่งหลักนิติธรรม ค�านี้เป็นค�าที่ยิ่งใหญ่เป็นค�าที่กว้างขวาง และ
เพราะค�านี้ จึงท�าให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถที่จะคิด สามารถที่จะตีความ
สามารถที่จะสร้างที่จะขยายความอะไรต่อมิอะไรได้มากเหลือเกิน อย่างน้อย
รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้ว ที่เลิกไปแล้ว และก็มาถึงฉบับใหม่ที่ก�าลังร่างอยู่ก็ยัง
อุตสาห์ลอกเอามาใช้ อยู่ในมาตรา 3 เพราะหลักนี้เป็นหลักส�าคัญ เพราะหลักนี้
มีใจความว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรตาม
รัฐธรรมนูญและหน่วยงานทั้งหลายของรัฐ จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
มาตรานี้ ข้อความนี้ เป็นบทบัญญัติที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นบทบังคับเดียวที่บังคับ
_17-0315(001-027)1.indd 4 4/27/60 BE 11:52 AM