Page 180 - โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
P. 180
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
เล็งเห็นถึงความส าคัญของการพัฒนาปัจจัยด้านมูลค่าการลงทุน ห่วงโซ่อุปทาน ท าเลที่ตั้งของอุตสาหกรรมเดิม และ
ใช้วิธีการวิเคราะห์ด้วยการถ่วงค่าน้ าหนักในงานวิจัยนี้
2.2) Critical factors for sub-supplier management: A sustainable food
supply chains perspective (Grimm, J. H., Hofstetter, J. S., & Sarkis, J. [2014]. Critical factors for
sub-supplier management: A sustainable food supply chains perspective. International Journal
of Production Economics. 152, 159-173. Doi: https://doi.org/10.1016/j.ijpe.2013.12.011)
บทความเรื่อง การศึกษาปัจจัยส าคัญของห่วงโซ่อุปทานอาหาร เพื่อใช้บริหารจัดการ
อย่างยั่งยืน ส าหรับอุตสาหกรรมอาหารรายย่อย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยและโครงสร้างส าคัญเพื่อใช้
บริหารจัดการ ในอุตสาหกรรมอาหารและห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยพบว่า การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมี
ประสิทธิภาพต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบในหลายระดับของคู่ค้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความ
ยั่งยืน คู่ค้าที่เป็นบริษัทต่างๆ จะเข้าถึงผู้จัดหารายย่อยของพวกเขามากขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิบัติตาม
ข้อก าหนดด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีความความซับซ้อนและความท้าทายที่ไม่ซ้ ากัน ท าให้การบริหารจัดการ
ของอุตสาหกรรมรายย่อยยากกว่าอุตสาหกรรมหลักโดยตรง อาทิเช่น การไม่ปฏิบัติตามสัญญากับผู้จัดจ าหน่ายราย
ย่อย ซึ่งมีทางเลือกน้อยในการแก้ไขปัญหา และสร้างความกดดันให้กับการบริหารจัดการอุตสาหกรรมรายย่อย
ตามมา เนื่องจากการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานตามที่ก าหนดไว้ เพื่อแก้ปัญหา
ดังกล่าว จึงควรค้นหาปัจจัยความส าเร็จที่ส าคัญ (CSFs) ส าหรับการบริหารอุตสาหกรรม ของบริษัทต่างๆ ทั้งจาก
ความยั่งยืนหรือมุมมองอื่นๆ โดยบทความนี้ได้พยายามที่จะส ารวจและเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยส าคัญที่ช่วยใน
การเอาชนะความซับซ้อนและความท้าทายที่ไม่ซ้ ากัน ของการบริหารอุตสาหกรรม โดยเน้นอุตสาหกรรมอาหารเป็น
หลัก ในการศึกษาได้น าข้อมูลทางทฤษฎีมาใช้ร่วมกับข้อมูลจากการศึกษาภาคสนามเป็นเวลา 1 ปีใน 2 ห่วงโซ่
อุปทานอาหาร โดยระบุถึง 14 ปัจจัยความส าเร็จที่ส าคัญ (CSFs) ที่มีผลต่อความส าเร็จในการปฏิบัติตามมาตรฐาน
การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ บริษัทย่อย (CSS) โดยปัจจัยความส าเร็จที่ส าคัญ สามารถระบุได้เป็น (1) บริษัทที่อยู่ใน
Supply Chain ที่มีอ านาจต่อรองสูงที่สุด หรือเกี่ยวข้อง (2) ระดับความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง (3) พันธมิตรหรือคู่ค้า
ในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง และ (4) บริบทที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยความส าเร็จที่ส าคัญ ทั้งนี้ การศึกษาในปัจจุบันเป็น
การขยายทฤษฎีเกี่ยวกับปัจจัยความส าเร็จที่ส าคัญ โดยสามารถน าไปประยุกต์ใช้ทฤษฎีเพื่อความยั่งยืน และบริบท
ในการบริหารจัดการอุตสาหกรรมรายย่อย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนา และเป็นข้อมูลส าคัญเชิงลึกที่เป็น
ประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติงานจริง ส าหรับการประเมินผลการบริหารจัดการผู้ผลิตรายย่อยในอุตสาหกรรมอาหารและ
อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่อาจพบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
ผลการศึกษาพบว่าได้มีการก าหนดปัจจัยที่มีความส าคัญในการเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมใน
การจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม คือ ควรเลือกต าแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้กลุ่มบริษัทคู่ค้าหรือหรือพันธมิตร โดยอาจ
วิเคราะห์ได้จากระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนา และความชัดเจนของต าแหน่งในห่วง
ส านักงานศูนย์วิจัยและให้ค าปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน้า 5 - 11