Page 90 - ภัมภีร์กศน.
P. 90

(functional literacy) การรู้หนังสือควรส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและ
          เศรษฐกิจ (และต่อมายังขยายไปถึงการพัฒนา ด้านอื่น ๆ เช่น บุคคล
          วัฒนธรรม และการเมือง) การรู้หนังสือสามารถจะสอนให้เกิดทักษะทั่วไป

          ที่สามารถนำไปใช้ในทุกหนทุกแห่งได้
                 3. การเรียนรู้เป็นกระบวนการเรียนรู้ (literacy as a learning
          process) การรู้หนังสือไม่ใช่การรู้หนังสือแบบจำกัดตัวอยู่เฉพาะการจัดให้
          อ่านเขียนเท่านั้น  แต่มองว่าประสบการณ์เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการ

          เรียนรู้
                 4. การรู้หนังสือเป็นการอ่านตำรา (literacy as text) แนวคิดนี้
          มองว่า การรู้หนังสือเป็นการอ่านตำรา แบบเรียนหรือวัสดุการอ่านที่ใช้ใน

          โรงเรียน มีความสัมพันธ์กับชีวิตของผู้เรียนในปัจจุบันและอนาคต จึงควร
          ศึกษาวิเคราะห์เรื่องราวที่อยู่ในหนังสือเหล่านั้น เพื่อทำความเข้าใจชีวิตใน
          ปัจจุบัน และอนาคตที่ผู้เรียนจะต้องมีส่วนร่วม
                 ความหมายของการรู้หนังสือในปัจจุบันนี้ น่าจะเป็นเช่นที่ยูเนสโก

          สรุปว่า
                 “…จากความหมายง่าย ๆ ว่า การรู้หนังสือเป็นเพียงทักษะการ
         อ่าน การเขียนและการคิดคำนวณเปลี่ยนไปสู่ความหมายที่ซับซ้อนมากขึ้น
         และกินความหลากหลายรวมไปถึงสมรรถภาพสำคัญที่มิอาจปฏิเสธได้

         แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
         และโลกาภิวัตน์ ตลอดจนความก้าวหน้าด้านสารสนเทศและการสื่อสาร
         เป็นการยอมรับว่า มีการปฏิบัติในด้านการรู้หนังสือหลายอย่าง ซึ่งยังแฝง
         อยู่ในวัฒนธรรมที่หลากหลายในสิ่งแวดล้อมของแต่ละบุคคล  และใน

          โครงการที่ผู้คนอยู่รวมกัน”  4

          4   UNESCO. 2004. The Plurality of Literacy and Its Implication of Policies
            and Programmes. Paris : UNESCO. (UNESCO Education Sector Position Paper,
            UNESCO, Paris. 2004).



               เอกสารสาระหลักการและแนวคิดประกอบการดำเนินงาน กศน. : คัมภีร์ กศน.
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95